หนุ่มหวังกู้เงินผ่านแอพ รักษาเมียป่วยโรคไต ถูกหลอกโอน1.8หมื่น เครียดจนคิดสั้น เผยมิจฉาชีพลงโฆษณาอ้างชื่อผู้ประกาศข่าวดังให้ดูน่าเชื่อถือ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายวิทูล หมั่นเจียก อายุ 44 ปี พร้อมภรรยาชื่อนางบัวจันทร์ หมั่นเจียก อายุ 43 ปี ชาวอ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2566 ตนเองและภรรยาไม่มีเงินหมดหนทาง จะพาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตไปหาหมอ จึงได้คิดไปกู้เงินผ่านเว็บไซต์ด้วยขอกู้เงินเป็นจำนวน 30,000 บาท โดยมีเพจๆหนึ่ง โฆษณาเกี่ยวกับเงินกู้ผ่านเว็บไซต์ และดูน่าเชื่อถือเพราะแอบอ้างผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ลงคลิปเกี่ยวกับช่องทางการกู้เงิน
ตนเองเห็นแล้วน่าเชื่อถือ จึงได้เข้าไปสมัครผ่านเพจดังกล่าวแล้วก็เข้าระบบไลน์ที่ทางเพจให้มาอีกที จนถึงขั้นโอนเงินไปให้กับทางเพจที่อ้างว่าปล่อยกู้ พร้อมกับส่งบัตรประชาชน ที่อยู่ โอนเงินไปให้กับทางเพจตามหมายเลขบัญชีที่ทางเพจได้ให้ไว้ในครั้งแรกเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท และทางเพจก็ให้ตนเองโอนเงินไปอีก ภายใน 5 นาที อีก 15,000 บาทเพื่อให้ตนเองยืนยันตัวตน หลังจะนั้นทางเพจจะโอนตังที่ตนเองกู้ให้ทั้งหมดจำนวน 45,000 บาท
ที่ตนเองนั้นได้ทำเรื่องยอดกู้ไว้ ในเวลาต่อมาตนเองก็รอเงิน 30,000 บาทพร้อมกับเงิน 15,000 บาทที่ตนเองยืนยันตัวตนไป ทางเพจก็ไม่โอนเงินเข้าบัญชีตนเองสักที พร้อมกับอ้างว่าตนเองได้ให้บัญชีผิดไป ทางเพจไม่สามารถโอนเงินมาให้ตนเองได้ ตนเองก็เครียดหวั่นว่าตัวเองนั้นถูกโกงอย่างแน่นอน จึงได้สอบถามไปทางเพจดังกล่าว แต่คำตอบที่ได้มาทางเพจได้อ้างว่าตนเองทำไม่ถูกขั้นตอนเนื่องจากทางเพจบอกว่าตนเองนั้นไม่ได้ใส่บันทึกช่วยจำ ในการโอนเงินไปให้ในครั้งแรกว่าเป็นเงินอะไร
แล้วก็อ้างกลับมาว่าตนเองนั้นทำข้อมูลผิดพลาดจนทำให้ตนเองไม่ได้รับเงินทั้งยอดกู้และเงินที่เสียไป 15,000 บาท ถึงขั้นเครียด เนื่องจากตนเองนั้นได้ไปกู้ยืมเงินเพื่อนบ้านมา 15,000 บาทเพื่อจะขอไปยืนยันตัวตนกับทางเพจที่ให้กู้ แต่แล้วไม่ได้ทั้งเงินกู้ แถมเสียทั้งเงิน15,000 บาทที่ไปยืมเพื่อนบ้านไว้ จนทำให้ตนเองเครียดคิดผูกคอฆ่าตัวตายเนื่องจากไม่มีเงินพาภรรยาไปรักษาโรคไต
ตนมาร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับเพจดังกล่าว ให้นำเงินมาคืนตนเอง 18,000 บาทด้วย เนื่องจากตนเองได้ไปกู้เงินเขามาอีกทีหนึ่ง พร้อมกับนำเงินเก็บ3,000 บาท ของภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไต ไปสมัครเพื่อขอกู้เงินในยอด 30,000 บาท จนทำให้ตนเองคิดว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงอย่างแน่นอน เนื่องจากติดต่อเบอร์ที่ทางเพจให้มาไม่ได้อีกเลย พร้อมกับทางเพจได้ส่งเบอร์มาอีก ได้อ้างว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดการ แต่พอโทรไปสอบถามเจ้าของเบอร์บอกไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังจากนั้นตนเองได้นำหลักฐาน สลิปการโอนเงินปลายทางและชื่อ พร้อมกับแชทการพูดคุยกับทางเพจดังกล่าว ไปให้กับพนักงานสอบสวนไว้ที่สภ.ลานสัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามเงินดังกล่าวกลับมาคืนตนเอง เนื่องจากตนเองก็ได้กู้ 15,000 บาทจากเพื่อนบ้านมาอีกทีหนึ่ง พร้อมกับเสียเงินค่าสมัครต้องมีเงินหมุนเงินในบัญชีโอนให้ทางเพจดังกล่าว อีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 18,000 บาท เพื่อจะโอนเงินไปให้กับเพจ