เรื่องราวของสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในณฑลหูเปย์ ประเทศจีน ทั้งคู่พบกันผ่านการจับคู่ มีความประทับใจที่ดีต่อกันตั้งแต่พบกันครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาจึงสานสัมพันธ์รักอย่างรวดเร็ว แม้ว่าฝ่ายหญิงจะมาจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว พ่อของเธอเป็นนักพนันที่มีหนี้สิน แต่ฝ่ายชายก็ไม่ได้วิพากษ์วิจรณ์ภูมิหลังของเธอ อีกทั้งยังสัญญาว่าจะทำให้เธอมีชีวิตที่ดี
ทั้งสองจัดงานแต่งงานในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งตรงกับวันโกหกโลก (April Fool’s Day) กลายเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ สามีคิดว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความสุข แต่ดูเหมือนว่าการแต่งงานในวันโกหกกลายเป็น “ลางบอกเหตุ” สำหรับชีวิตแต่งงานของทั้งคู่
ตอนที่พวกเขาไปฮันนีมูนด้วยกัน ภรรยามีสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่เห็นได้ชัด ซึ่งทำให้สามีมีความสุขมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นจู่ๆ ภรรยาก็ขอกลับไปที่บ้านพ่อของเธอ และไม่ยอมกลับมาที่บ้านของสามีอีกเลย ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะแน่ใจว่าไม่ได้มีการทะเลาะกัน และหลังจากนั้นก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้ว่า ภรรยาของเขาแท้งหลังจากแต่งงานได้เพียง 7 วันเท่านั้น โดยที่เธอไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆ และเอาแต่หลบอยู่ที่บ้านของพ่อ
ฝ่ายแม่สามีเมื่อเห็นท่าทีของลูกสะใภ้ ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากจัดงานแต่งงานให้ลูกชาย และครอบครัวของเจ้าสาวก็เรียกสินสอดไปในราคาที่สูงมากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงรับไม่ได้ เมื่อรู้ว่าสะใภ้แอบทำแท้งเงียบๆ โดยพลการ ไม่ปรึกษาแม้แต่คนเป็นสามีสักคำ และจนตอนนี้ก็ยังไม่อธิบายอะไรเลย
สองเดือนผ่านไป ภรรยายังคงไม่ยอมกลับบ้าน สามีจึงต้องไปหาพ่อตาที่
บ้าน อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ภรรยาของเขาอยู่ที่ไหน พ่อของเธอบอกว่าลูกสาวออกจากบ้านไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนก่อน เพื่อค้นหาความจริงของเรื่องนี้ สามีจึงตัดสินใจไปที่ทำงานของเธอ
ทันทีที่เขาพบภรรยาก็ควบคุมความโกรธไม่อยู่ ปรี่เข้าไปตบหน้าเธอทันที และขอให้เธออธิบายเรื่องการทำแท้งมาให้หมด ในท้ายที่สุดเธอก็ยอมรับว่าทำแท้งเพราะเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา ความจริงนี้เป็นเหมือน “สายฟ้าฟาด” ลงมากลางใจ เพราะจำได้ว่าเขาเคยขอให้เธอไปปตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน แต่เธอปฏิเสธ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้
ชายหนุ่มตัดสินใจขอหย่าทันที และเรียกร้องให้คืนเงินสินสอดทั้งหมดมาด้วย เมื่อได้ยินดังนั้นภรรยายอมละทิ้งความอายและคุกเข่าลงต่อหน้าสามี ขอร้องให้เขาให้เวลาเธอมากขึ้นในการเก็บเงิน โดยสัญญาว่าเธอจะคืนเงินเต็มจำนวนอย่างแน่นอน แต่สามีไม่ทนอีกต่อไป เขาผลักเธอออกและพูดว่า
“เลิกทำตัวน่าสมเพชได้แล้ว เมื่อตอนที่ฉันให้โอกาสเธอ ทำไมเธอถึงหลบหน้าฉันและไม่ยอมอธิบายให้ฉันฟัง เธอเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม?” พร้อมยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า เธอต้องคืนเงินทั้งหมดโดยเร็สที่สุด มิฉะนั้นเขาจะฟ้องร้องต่อศาล