สืบเนื่องจากรายงานด่วน เมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. วันที่ 13 มีนาคม 2567 โดย พ.ต.ต.วราวุฒิ เส็นโสบ สอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุ พบศพชาวต่างชาติเสียชีวิตภายในบ้านพักหรู บริเวณเนินเขา ซอยใสน้ำเย็น หรือซอยเจ้าฟ้า 67 หมู่ 6 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยหลังจกาเข้าไปตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างพบศพชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ นายอาเทอร์ การ์นิโควิช อายุ 41 ปี สัญชาติรัสเซีย นอนหงายเสียชีวิต สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลที่บริเวณลำคอและตามร่างกาย มีร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-10 ชั่วโมง
จากการสอบเบื้องต้นทราบว่า แฟนของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อเจ้าของรถเช่าเพราะ นายอาเทอร์ (ผู้เสียชีวิต) ได้มาเช่ารถไปตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งแฟนสาวนั้นจะขอให้เจ้าของรถเช่าช่วยเช็คจีพีเอสรถที่เช่าไป เพราะผู้เสียชีวิตหายไป 2 วันแล้ว ติดต่อไม่ได้ และเมื่อตามจีพีเอสรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งเป็นรถยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายทะเบียน กธ 739 พัทลุง ก็ได้พบว่าจุดสุดท้ายจีพีเอสนั้นอยู่ในซอยเจ้าฟ้า 67 ต.ฉลอง (บ้านพักที่เกิดเหตุ)
- ถึงเวลาเอาคืน! ‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่งทนายฟ้อง “บิ๊กเต่า” ข้อหาหมิ่นประมาท!
- เปิดวาร์ป ! “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” ดีกรีไม่ธรรมดา ลูกศิษย์ลูกหาเพียบ
- แท็กซี่หมอชิต จ่อเก็บเซอร์วิสชาร์จเพิ่ม 50 บาท ยันไม่ได้เอาเปรียบ!
ขณะเดียวกันจากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุ แฟนสาวชาวไทยเป็นคนเช่าให้กับผู้เสียชีวิต เพื่อเปิดบริษัทท่องเที่ยว แต่ติดปัญหาบางอย่าง จึงหันมาปลูกกัญชาแทน ซึ่งตลอดมาก็ได้มีชาวต่างชาติแวะเวียนมาบ้านหลังดังกล่าว เพื่อซื้อและเสพกัญชา กันเป็นประจำ
และจากรายงานแหล่งข่าวนั้นมีการคาดเดาว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่าหนุ่มรัสเซียในครั้งนี้น่าจะเป็น เป็นชาวต่างชาติ สัญชาติ “ทาจิก” ซึ่งเดินเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มี.ค.67 ถือวีซ่า นักท่องเที่ยว 60 วัน และ คาดว่าในวันเกิดเหตุ ชาวต่างชาติคนดังกล่าวน่าจะเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุและมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายซึ่งเป็นชายชาวรัสเซีย จนเกิดการลงมือฆ่ากัน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ว่า ผู้ตายกับคนร้าย เกี่ยวพันกับการค้ากัญชาหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมลายละเอียดที่พบในจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานสถานทูตรัสเซีย และตรวจสอบวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินการกฎหมายต่อไป