หนุ่มรับเหมาหึงโหด ยิงปืนฉุดเมียขึ้นรถ ขับหนี ก่อนจ่อยิงดับ-ลั่นไก ญาติแฉ ปันใจมีหญิงอื่นก่อน แล้วมาตามง้อขอคืนดี ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยก่อเหตุร้าย

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 24 พ.ค.65 ร.ต.อ วินัย แสนสุข พนักงานสอบสวน สภ. โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ ในรถเก๋ง จอดอยู่ริมถนนสายโคกกรวด-หนองปลิง บ้านสระมโนราห์ หมู่ที่ 6 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงประสานกู้ชีพ รพ.มหาราชนครราชสีมา และอาสากู้ภัย ฮุก 31 โคราช ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ฮอนด้า สีดำ จอดติดเครื่องยนต์อยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมากั้นห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ เพราะเกรงจะกระทบต่อพยานหลักฐาน และได้ประสานแพทย์โรงพยาบาลมหาราชฯ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ

ตรวจสอบภายในรถ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย และหญิง รวม 2 ราย ทราบชื่อคือ นายสนธยา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี มือขวากำอาวุธปืนพกสั้น มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด ส่วนฝั่งเบาะด้านข้างคนขับพบศพ น.ส.สมมุติทิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวา 1 นัด เสียชีวิตนั่งพิงเบาะ ภายในรถพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ในรถ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน และมีลูกด้วยกัน 1 คน โดยฝ่ายชายมีอาชีพผู้รับเหมา ส่วนฝ่ายหญิงทำงานโรงงาน แต่ครอบครัวมีปัญหา เพราะฝ่ายชายไปมีผู้หญิงคนใหม่ ทั้งสองคนจึงแยกกันอยู่มานาน 3-4 เดือนแล้ว ช่วงระยะหลังฝ่ายชายพยายามตามง้อขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง และไม่ยอมคืนดีด้วย

ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวานนี้ (23 พฤษภาคม 2565) หลังจากฝ่ายหญิงเลิกงาน ฝ่ายชายได้ตามไปถึงที่ทำงานของฝ่ายหญิงบริเวณ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา และฝ่ายชายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ และบังคับให้ฝ่ายหญิงนั่งรถยนต์มาด้วยกัน เพื่อนร่วมงานเห็นเหตุการณ์จึงแจ้งญาติฝ่ายหญิงเข้าแจ้งความ ที่ สภ.จอหอ เพื่อให้ช่วยกันตามหา กระทั่ง มีคนมาพบศพทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ฝ่ายชายฉุดฝ่ายหญิงขึ้นรถมา ไกลกว่า 20 กิโลเมตร

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า ฝ่ายชายพยายามตามง้อขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ฝ่ายชายจึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนจ่อยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิต ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตามเพื่อหนีความผิด ซึ่งได้ให้กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่ง โรงพยาบาลมหาราชฯ เพื่อชันสูตรต่อไป