หนุ่มตรวจสุขภาพพบป่วย 3 โรคฮิต แต่อาการปวดน่องอาจถึงขั้นต้อง “ตัดขา” หมอแนะเพิ่ม 1 วัตถุดิบในทุกมื้ออาหาร
ดร.หยาง จื้อเหวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวกล่าวว่า เห็ดไม่เพียงช่วยต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะสมองเสื่อมเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้อีกด้วย
เห็ดไม่ใช่ผักและไม่ใช่พืช แต่เป็นเชื้อราชั้นสูงที่จัดอยู่ในประเภทของจุลินทรีย์ (Microorganisms) เห็ดหลากหลายชนิดสามารถรับประทานได้ตลอดทั้งปี เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิ และเห็ดหิมะขาว ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ดร.หยาง ได้แบ่งปันกรณีศึกษาหนึ่งในบล็อกแฟนเพจของเธอ เล่าถึงชายวัย 35 ปีที่ทำงานเป็นผู้จัดการธุรกิจ เขาเข้ามาปรึกษาเธอหลังตรวจสุขภาพและพบว่ามีปัญหา “3 โรคยอดนิยม” (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง) ใกล้สิ้นปีเขาต้องเดินทางเพื่อธุรกิจบ่อยครั้ง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกปวดน่องมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลักษณะคล้ายกับเป็นตะคริว อาการจะดีขึ้นเมื่อพักผ่อน เมื่อเธอตรวจรายงานสุขภาพ พบว่าความดันโลหิตของเขาสูงถึง 160 ไตรกลีเซอไรด์ 600 มก./ดล. (ซึ่งสูงกว่าค่าปกติถึง 4 เท่า) คอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) สูงถึง 190 มก./ดล. และระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) อยู่ที่ 8.5% (ค่าปกติควรอยู่ที่ 4.0-5.6%)
ดร.หยางเปิดเผยว่า เมื่อเธอสัมผัสที่เส้นเลือดบริเวณหลังเท้า (dorsalis pedis artery) พบว่าชีพจรอ่อนมากและอุณหภูมิผิวหนังต่ำกว่าปกติ จึงแนะนำให้เขาไปตรวจเพิ่มเติมกับศัลยแพทย์โรคหัวใจ ผลปรากฏว่าหลอดเลือดส่วนล่างอุดตัน ซึ่งต่อมาเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อใส่ขดลวดในหลอดเลือด มิฉะนั้น การอุดตันและการขาดออกซิเจนในระยะยาวอาจทำให้ต้องตัดอวัยวะทิ้ง เธอกล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากนั้นเขาได้รับคำแนะนำให้ควบคุมน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงจะทำให้เยื่อบุหลอดเลือดเสื่อมสภาพ หากหลอดเลือดส่วนที่อุดตันครั้งถัดไปอยู่ในสมอง อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
นอกจากนี้ เธอยังแนะนำให้เพิ่มเห็ดในมื้ออาหารประจำวันด้วย 3 เหตุผลหลัก ได้แก่
- เห็ดมีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและปกป้องเยื่อบุหลอดเลือด
- ใยอาหารช่วยจับตัวกับกรดน้ำดีและลดระดับคอเลสเตอรอล
- เห็ด เช่น เห็ดหูหนูดำ มีคุณสมบัติยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ซึ่งช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
ดร.หยางกล่าวปิดท้ายว่า เห็ดไม่เพียงช่วยต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะสมองเสื่อม แต่ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เธอแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันสูง และอาหารทอดที่ทำให้น้ำตาลในเลือดผันผวน ควรรับประทานให้น้อยลงและจดจำว่า สุขภาพที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และการมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงในระยะยาว