เปิดใจหนุ่ม ถ่ายพรีเวดดิ้ง ในป่าช้า เป็นความชอบส่วนตัว แจง ผู้หญิงในภาพ เล่าเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ทำให้ตระหนักถึงความตาย เผย เรื่องชวนขนลุกขณะถ่ายทำ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nonts Kongchaw โพสต์ภาพชุดพรีเวดดิ้ง พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า Pre Wedding – Love Beyond Death เพราะความรักอยู่เหนือความตาย โดยเป็นภาพธีมเกี่ยวกับความตาย ที่คู่หนุ่มสาวเล่าเรื่องผ่านงานศพ และถ่ายทำกันที่ป่าช้า ซึ่งมีบางภาพที่เจ้าบ่าวเข้าไปถ่ายในเมรุ จนกลายเป็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : แชร์ว่อน! พรีเวดดิ้งสุดสะพรึง ถ่ายในป่าช้า-เมรุเผาศพ ชาวเน็ตขนลุกภาพสุดท้าย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ม.ค.2565 คุณนนท์ คงชาว เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในป่าช้า เพราะต้องการนำเสนอแนวคิด Love Beyond Death เพราะความรักอยู่เหนือความตาย จนได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ว่า ขอชี้แจงว่าเจ้าสาวที่อยู่ในภาพเป็นเพื่อนของตน ที่ตนชวนมาถ่ายรูปในแนวคิดของ ความรักอยู่เหนือความตาย เพราะว่าต้องการจะบอกต่อให้กับทุกคนได้รู้ว่าความตายมันอยู่ใกล้กับเราเพียงแค่นิดเดียว จริง ๆ แล้ว ตนอยากชวนแฟนมาถ่ายรูปในธีมนี้ แต่แฟนบอกว่า ขอถ่ายแบบปกติ ตนก็เลยชวนเพื่อนมาถ่ายแทน
คุณนนท์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถ่ายรูปลักษณะแบบนี้มาแล้วในธีมวันเกิด แต่ถ่ายเป็นรูปงานศพของตัวเองแทน ตนรู้สึกชื่นชอบในแนวคิดนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เวลาไปงานศพก็รู้สึกว่าโลงศพ และ เมรุวัดมันสวยน่าใช้ดี ประกอบกับตอนช่วงเวลาที่อายุ 24 ปี ตนป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังแล้วต้องผ่าตัดใหญ่ ซึ่งหมอบอกว่ามีความเสี่ยงมากแล้วอาจจะพิการ อาจจะต้องรอปาฏิหาริย์ว่าจะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ หรืออาจจะอยู่ได้แค่ 2 เดือน แต่จู่ ๆ ยังไม่ทันผ่าตัด ตนก็หายจากอาการป่วยเลยโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
คุณนนท์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นั้นจึงทำให้ตนตระหนักถึงความตายและใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากขึ้น จึงอยากสื่อสารแนวคิดนี้ให้กับทุกคนได้รับรู้ว่าความตายอยู่รอบตัว อยากทำอะไรให้รีบทำ ตนจึงชวนเพื่อนมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกัน โดยไปถ่ายที่ป่าช้าเก่าของวัดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งก่อนที่จะถ่ายตนกับทีมงานก็ได้ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสแล้ว ในวันถ่ายทำก็มีสัปเหร่อมาคอยดูแลความปลอดภัยด้วย เนื่องจากว่าป่าช้าที่ถ่ายรกร้างและไม่ได้ถูกใช้งาน จึงกลัวว่าจะมีสัตว์อันตราย
“เราเริ่มถ่ายกันตั้งแต่ 4 โมงจนถึงตี 2 ของอีกวัน ในช่วงเวลาตอนถ่ายทีมงานก็มีความกลัวบ้าง แต่ว่ามันก็ท้าทายดี ตอนถ่ายอยู่ เรากำลังจะเอาโหลที่ไว้ใส่กระดูกมาถ่ายด้วย แต่ทีมงานถืออยู่ดี ๆ โหลก็แตก โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เอาไปกระแทกหรือทำตกที่ไหน เพราะว่าโหลนี้เพิ่งซื้อมาใหม่ ตอนนั้นทุกคนก็งงแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร โฟกัสที่การถ่ายทำจนเสร็จ” คุณนนท์ กล่าว
คุณนนท์ กล่าวต่อว่า เมื่อถ่ายเสร็จแล้ว ช่างภาพส่งภาพมาให้ดู ก็เพิ่งจะเห็นรูปหนึ่งมีผู้ชายลักษณะเหมือนคนยืนดูอยู่จากด้านหลัง ตนคิดว่าน่าจะเป็นคน แต่ว่าช่วงเวลาถ่ายนั้นรู้สึกไม่คุ้นหน้าผู้ชายคนนั้น เลยไม่ทราบว่าเป็นสัปเหร่อหรือว่าเป็นใคร แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าหากไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นจริง ๆ
คุณนนท์ กล่าวว่า ทั้งนี้ พอหลังจากที่ลงรูปเซ็ตนี้ไป ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นหลายแบบ ทั้งชื่นชอบ ทั้งตักเตือน หลายคนอาจจะมองว่า ชุดงานแต่งคือชุดที่ใส่สำหรับงานชุดมงคล ส่วนงานศพคืออวมงคล สำหรับตนมองว่า การได้แลกเปลี่ยนความคิดแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี