หนุ่มตามหาเมียหายทั้งคืน ก่อนเจอศพในช่วงเช้า สภาพเปลือยถูกฆ่ารัดคอ-ทุบหัวทิ้งบ่อน้ำ เผาทำลายเสื้อผ้า
(27 ก.ค.64) ร.ต.ท.ชาญชัย สงศิริ รองสว.สอบสวน สภ.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้ง พบศพหญิงสาวสภาพเปลือยลอยอยู่ในคลองบางพระครู ม.3 ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา สงสัยว่าจะเป็นหญิงสาวทีหายตัวไปเมื่อกลางดึก ที่พบเพียงรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ข้างถนนสายบ้านขล้อ-บางปะหัน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา แพทย์เวรโรงพยาบาลบางปะหัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำอยู่ห่างจากถนนบ้านขล้อ-บางปะหัน ประมาณ 300 เมตร ริมคลอง พบเครื่องสูบน้ำถูกไฟไหม้ ที่พื้นหญ้าบริเวณโดยรอบมีร่องรอยถูกไฟไหม้ พบจี้ทองรูปหัวใจอยู่ในซากกองเพลิง จากถนนทางลงมาถึงคลอง พบร่องรอยล้อรถยนต์ จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
ภายในคลองศพหญิงสาวสภาพเปลือย ลอยคว่ำหน้าบริเวณลำคอมีเสื้อสีครีมพันอยู่ที่ลำคอ จึงนำศพขึ้นมาชันสูตร พบว่า สวมถุงเท้าข้างเดียว ที่บริเวณหัวเข่าข้างขวามีร่องรอยแผลถลอกช้ำ ที่บริเวณคิ้วขวามีบาดแผลแตกเป็นแผลกว้างประมาณ 7 ซม. ถูกทุบด้วยของแข็งไม่มีคม
สอบถาม นายวิษณุ อายุ 38 ปี ที่ออกตามหาภรรยาตลอดทั้งคืนหลังจากพบเพียงรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ริมถนนใกล้กับจุดที่พบศพ ยืนยันว่าศพหญิงสาวที่พบคือ น.ส.วราพร อายุ 40 ปี ภรรยาของตนเอง โดยตนเองและภรรยาทำงานโรงงานที่เดียวกัน ภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ต.บางพระครู อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเย็นตนเองเลิกงานกก่อนเมื่อเวลา17.00น. ส่วนภรรยาเลิกงานสองทุ่ม จะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ใน ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ยังทักแชทพุดคุยกันได้อยู่ จนถึงเวลาประมาณ 21.40 น. เห็นผิดเวลายังไม่ถึงบ้านจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามไม่สามารถติดต่อได้ จึงเริ่มออกตามหา และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนไปพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ หมายเลข ทะเบียน 1กม-7871 อ่างทอง ของภรรยาล้มคว่ำอยู่ทางในพงหญ้า
ค้นหาในคลอง ทุ่งนา บ่อน้ำ บริเวณโดยรอบ ตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบ จนช่วงเช้ามีเพื่อนบ้านที่เข้าไปตกปลาในบ่อน้ำจุดที่พบศพว่าพบศพหญิงสาวลอยอยู่ในน้ำจึงเดินทางมาดู ตนเองกับภรรยาไม่เคยมีปากเสียงอะไรกันอยู่กินด้วยกันมามีลูก 1 คน ทำงานที่เดียวกันแต่ตนเองเลิกงานก่อน ปกติภรรยาตนเองจะขับรถยนต์เก๋งมาทำงาน แต่รถนำไปซ่อมได้ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงขี่รถจักรยานยนต์มาทำงาน ยังไม่ทราบสาเหตุว่ามาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมได้อย่างไร โดยภรรยามีทรัพย์สินติดตัวเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่หายไป
นางสาวรจนา อายุ 32 ปี ที่มาพบศพคนแรก กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าจะเข้ามาหาตกปลา พอขับขี่รถจักรยานยนต์ลงมาที่เกิดเหตุแล้ว พบเห็นว่าที่เครื่องสูบน้ำถูกไฟไหม้จึงเดินเข้าไปดู พบว่าในบ่อน้ำมีศพลอยย้ำอยู่จึงรีบแจ้ง กับแฟนของผู้ตายและเจ้าหน้าที่ เพราะรู้จักกันและรู้ว่าตามหาภรรยาอยู่
สอบถามเพื่อนร่วมงานกับผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตขยันตั้งใจทำงานดี นอกจากทำงานโรงงานแล้วยังหารายได้พิเศษด้วยการขายสินค้าออนไลน์และทำขนมขาย เป็นคนรูปร่างหน้าตาดี แต่ไม่เคยเห็นว่าผู้ตายมีความสนิทสนมกับผู้ชาย
พยานอีกรายซึ่งทำงานที่เดียวกับผู้เสียชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงานพร้อมกันโดยใช้เส้นทางหลังนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ระหว่างทางเห็นผู้เสียชีวิตขับแซงตนเองไป มีรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์สี่ประตู รถยนต์เก๋ง ขับตามหลังไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตอาจ ระหว่างทางจะมาพบกับคนร้าย แล้วถูกคนร้ายซึ่งอาจจะขับรถจักรยานยนต์ ใช้เท้าถีบให้รถล้ม หรือใช้รถยนต์เฉี่ยวชน แล้วนำตัวของผู้เสียชีวิต มาทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ก่อนเผาทำลายพยานหลักฐาน แล้วเอาศพทิ้งไปในบ่อน้ำ ส่วนจะทำการล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียชีวิตหรือไม่ต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดครั้ง พร้อมกับสอบสวนพยานบุคคล ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจากโรงานตลอดเส้นทาง