ญาติและเพื่อนร่วมงานแห่อาลัย หนุ่มจมแม่น้ำโขงตายพร้อมลูกสาว 7 ขวบ เผยผู้ตายมีภาระหนี้สิน แต่เป็นคนสู้ชีวิต รักลูกสาวมาก แม่มั่นใจไม่ได้คิดสั้นแน่นอน

ความคืบหน้ากรณี นายระฆังเงิน อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานรับส่งอาหาร บ้านอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จมน้ำโขงเสียชีวิตพร้อมลูกสาว คือ ด.ญ.โม อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 เหตุเกิดบริเวณโป๊ะแพ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เยื้องจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ถนนสุนทรวิจิตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา

จนกระทั่งมีกระแสดราม่า ว่าคิดสั้นฆ่าตัวตายจากภาระหนี้สินพิษโควิด-19 ด้วยการกระโดดน้ำโขงพร้อมลูกสาว อายุ 7 ขวบ ทั้งนี้ ทาง ตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้มีการสอบสวนหาสาเหตุเป็น 2 ประเด็น คือ คิดสั้นฆ่าตัวตาย กับปมอุบัติเหตุ

เนื่องจากมีชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ พบเห็นว่า น้องมา 2 ตัว ที่ผู้ตายและลูกสาวพามาเดินวิ่งออกกำลังกาย กระโดดลงไปในน้ำโขง ทำให้ลูกสาว อายุ 7 ขวบ กระโดดน้ำลงไปช่วยน้องมาด้วยความรักผูกผันธ์กับน้องมา ที่กระโดดลงไปในน้ำ โดยไม่รู้ว่าน้องหมาช่วยเหลือตัวเองได้

หลังพ่อพบเห็นจึงกระโดดลงไปช่วยลูกสาว แต่กระแสน้ำโขงไหลเชี่ยว จนหมดแรงจมน้ำทั้งคู่ แต่น้องหมาทั้ง 2 รอดชีวิตลอยคอขึ้นฝั่ง และยังมานอนเฝ้าศพหลังกู้ร่างขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพสุดเวทนา

ล่าสุด วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ทางญาติได้นำศพผู้เสียชีวิตมาประกอบการฌาปนกิจศพที่วัดมหาธาตุ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมตามประเพณี โดยมีญาติๆ รวมถึงเพื่อนร่วมงาน มาร่วมไว้อาลัย ทั้งนี้ทางสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม รวมถึงเพื่อนร่วมงานได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวส่วนหนึ่ง

จากการสอบถาม นางสมคิด อายุ 55 ปี แม่ผู้ตาย ได้ออกมายืนยันว่า การเสียชีวิตครั้งนี้ มั่นใจว่าลูกชายไม่คิดสั้นจนเป็นสาเหตุถึงขั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนแรกตนมีความคิดว่าลูกชายอาจเครียด แต่พอมาตรวจสอบข้อมูลกับคนที่พบเห็นเหตุการณ์ ประกอบกับสภาพความเป็นอยู่ พฤติกรรมส่วนตัว นิสัย ลูกชาย เป็นคนสู้ชีวิต

ยอมรับว่าลูกชายมีปัญหาหนี้สิน ทำงานรายได้ลดลง แต่ไม่เคยบ่นท้อแท้ อยู่กินแต่งงานกับภรรยามากว่า 10 ปี พอลูกกับอดีตภรรยา ยังขอรับลูกสาวทั้ง 2 คนมาเลี้ยง คือคนโตที่เสียชีวิต อายุ 7 ขวบ อีกคนอายุ 4 ขวบ ก็ตั้งใจหาเงินดูแลลูกสาวมาตลอด โดยมีครอบครัวและพ่อแม่ให้กำลังใจ ไม่เคยทะเลาะในครอบครัว

ตามปกติจะพาลูกสาวไปวิ่งออกกำลังกายทุกวันพร้อมกับน้องหมา 2 ตัว ที่รักมาก จากการสอบถามข้อมูลคนเห็นเหตุการณ์ เชื่อว่าไม่คิดสั้นแน่นอน คาดว่าสาเหตุน้องหมากระโดดลงไปว่ายน้ำ ทำให้ลูกสาว 7 ขวบ กระโดดลงไปช่วยน้องหมา เพราะไม่รู้ว่าน้องหมาช่วยตัวเองได้ โดยคนเป็นพ่อไม่ทันระวัง จึงกระโดดลงไปช่วยลูกสาว แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว หมดแรงจมน้ำทั้งคู่ มั่นใจไม่คิดสั้นแน่นอน

ด้าน นางสาวลลิตา อายุ 30 ปี อดีตภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า แต่งงานอยู่กินกันมากับผู้ตายกว่า 10 ปี มั่นใจ รู้นิสัยส่วนตัว อดีตสามี เป็นคนขยัน ทำมาหากิน แต่ช่วงหลังเลิกรากัน เพราะเรื่องครอบครัว แยกกันอยู่  ประมาณเกือบปี และฝ่ายชายขอลูกสาว 2 คนไปดูแล เพราะรักมาก ถึงแม้จะแยกกันอยู่ ตนยังคุยธุระติดต่อเรื่องลูกเป็นปกติ แม้กระทั่งวันเกิดเหตุ

ก่อนเกิดเหตุประมาณชั่วโมงยังพูดคุยทางโทรศัพท์ติดต่อกันเรื่องลูก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเศร้าขึ้น และตนเชื่อมั่นว่าเป็นอุบัติเหตุ มั่นใจอดีตสามีไม่คิดสั้น และตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาหนี้สิน จากกการสอบถามพ่อแม่ญาติพี่น้อง ยังไม่ถึงทางตันขนาดนั้น และยังมีทางออกแก้ไขได้ ถึงแม้จะเครียดบ้าง แต่เชื่ออดีตสามีรักครอบครัวพ่อแม่ และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อลูกสาว