หนุ่มชูป้ายขอพบ อนุทิน เผยพ่อเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน ผ่านมาร่วมเดือนผลชันสูตรยังไม่ออก

Home » หนุ่มชูป้ายขอพบ อนุทิน เผยพ่อเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน ผ่านมาร่วมเดือนผลชันสูตรยังไม่ออก

วันที่ 24 พ.ค.64 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสถาพร ม่วงวัง อายุ 32 ปี บุตรชายของ นายสมชาย ม่วงวัง อายุ 51 ปี พนักงานบริษัทเอกซ์เรย์แห่งหนึ่ง ที่เสียชีวิตลงหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสยี่ห้อซิโนแวค ที่โรงพยาบาลปทุมได้เพียงสองวัน ทำให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตติดใจและสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของนายสมชาย จนต่อมาทางโรงพยาบาลรามาธิบดีต้องเร่งนำร่างของนายสมชายจากงานศพไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเร่งด่วน ก่อนต่อมาทางโรงพยาบาลรามาธิบดี จะโทรแจ้งผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของนายสมชายให้กับนายสถาพรผู้เป็นลูกว่า นายสมชายเสียชีวิตจากสภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ 

  • ลูกชายพนักงานเอกซเรย์เผยรอผลชันสูตรแน่ชัด พ่อตายเพราะฉีดวัคซีนหรือไม่
  • คนขับรถเอกซเรย์เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด 2 วัน ลูกคาใจ รพ.บอกหัวใจวาย

นายสถาพรซึ่งเดินทางมาชูป้ายเรียกร้องความธรรมพร้อมข้อความระบุว่า “วอนคุณอนุทิน ช่วยเราด้วย การตายของพ่อผมสรุปแล้วก็ตายฟรี ไม่ได้มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือ วอนคุณอนุทินช่วยครอบครัวผมด้วย วิงวอนเถอะครับอย่าให้ใครต้องตายฟรีอีกเลยครับ ช่วยประชาชนด้วยครับ”

โดยระหว่างที่นายสถาพร ยืนชูป้ายเพื่อรอพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่สำนักงาน รมต. ได้เข้าเจรจาและให้คำแนะนำกับนายสถาพรว่า ให้ไปดำเนินการตามขั้นตอนยื่นเรื่องขอรับการเยียวยาจาก สปสช.ตามระบบก่อน และถ้าได้ยื่นเรื่องกับทาง สปสช.ไปแล้วยังเกิดความล่าช้าให้เดินทางมาร้องเรียนอีกครั้ง ทางสำนักงานรัฐมนตรีจะช่วยเร่งติดตามในเรื่องนี้ให้ 

นายสถาพร กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่พ่อตนเสียชีวิตและถูกนำร่างไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเป็นกรณีเร่งด่วน จนผ่านพ้นเวลามาเกือบ 20 วัน ก็ยังไม่มีผลตรวจที่เป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษรของโรงพยาบาลมาให้ ว่าพ่อของตนเสียชีวิตจากสาเหตุใดกันแน่ มีแค่การโทรมาแจ้งผลไม่เป็นทางการว่าพ่อของตนเสียชีวิตจากเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งหากผลชันสูตรว่าพ่อของตนเสียชีวิตจากเส้นเลือดหัวใจตีบจริง ทำไมผลตรวจเป็นทางการถึงได้ล่าช้ามาก เพราะโรงพยาบาลบอกให้ตนรอผลไปอีกเดือนกว่า 

นับตั้งแต่พ่อของตนเสียชีวิตไปไม่เคยมีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือใดๆเลย อย่างน้อยก็ควรแนะนำขั้นตอนการช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนก็ยังดี ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องกับทาง สปสช.ต่อไป และหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมช่วยเหลือเยียวยาใดๆจากรัฐบาล ตนจะกลับมายืนชูป้ายร้องรอความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ