กลุ่มนักลงทุน ร่วมกันระดมเงินซื้อเกาะในประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อสร้างประเทศจำลองแห่งใหม่ของโลก โดยมีแนวคิดสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

มาร์แชล เมเยอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Let’s Buy an Island ซึ่งเป็นโครงการที่มีฝันตั้งใจจะระดมทุนเพื่อซื้อเกาะ ภายในเดือนธันวาคม 2019 ความทะเยอทะยานของกลุ่มได้กลายเป็นความจริง โดยระดมเงินได้มากกว่า 250,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 8 ล้านบาทไทย เพื่อซื้อ คอฟฟี่เคย์ ซึ่งเป็นเกาะร้างขนาด 1.2 เอเคอร์นอกชายฝั่งเบลีซให้เสร็จสมบูรณ์

กลุ่มนักลงทุนไม่เพียงแค่ซื้อหุ้นเท่านั้น พวกเขายังลงทุนในโครงการสร้างชาติที่ไม่ธรรมดา เพราะ คอฟฟี่เคย์ ถูกจินตนาการใหม่ว่าจะกลายเป็น “ประเทศไอส์แลนเดีย” พร้อมด้วยธงประจำชาติ เพลงชาติ และรัฐบาล ยังเป็น ประเทศจำลองใหม่ล่าสุดของโลกอีกด้วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อ้างว่า ความเป็นอิสระ แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ

หนึ่งในนักลงทุน

ในช่วงต้นปี 2022 เมเยอร์เป็นผู้นำทัวร์ครั้งแรกที่ คอฟฟี่เคย์ เนื่องจากมีกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลายและนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจการสร้างประเทศบนเกาะ ที่มีการระดมทุนครั้งแรกของโลก “ความรู้สึกของการก้าวเข้าสู่เกาะที่คุณลงทุนและเป็นเจ้าของ” เมเยอร์กล่าวหลังจากนั่งเรือ 15 นาทีจากเบลีซซิตี้ “นั่นเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์” ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเดินจากปลายด้านหนึ่งของ คอฟฟี่เคย์ ไปยังอีกด้านหนึ่ง

คอฟฟี่เคย์ มีลักษณะยาว แคบ และมีรูปร่างไม่ชัดเหมือนเมล็ดกาแฟ ด้านหนึ่งของเกาะซึ่งมีที่โล่งมองเห็นชายหาดเล็ก ๆ ที่ทอดลงสู่อ่าวตื้น ๆ ได้ถูกนำมาเป็นที่ตั้งแคมป์ในตอนกลางคืน อีกครึ่งหนึ่งของคอฟฟี่เคย์มีความหนาและล้อมรอบด้วยป่าชายเลน เมเยอร์และนักลงทุนอีกหลายคนเคยตั้งค่ายพักแรมบน คอฟฟี่เคย์ ในการออกสำรวจมาก่อน

ที่พักชั่วคราวบนเกาะ

แนวคิดเริ่มต้นของการระดมทุนกิดขึ้นเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว เมื่อ แกเร็ธ จอห์นสัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่เชี่ยวชาญในการพานักเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางสุดขั้ว เช่น เกาหลีเหนือและซีเรีย และรัฐที่ไม่รู้จัก เช่น ทรานส์นิสสเตรีย, อับฮาเซีย และ นากอร์โน-คาราบาคห์ ด้วยฐานลูกค้าที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทุ่มเทให้กับการไปเยือนจุดหมายปลายทางที่มีข้อพิพาททางการเมือง แนวคิดในการซื้อเกาะเพื่อเริ่มต้นการเป็นประเทศจำลองจึงเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หุ้นในเกาะจะมีราคากว่า 100,000 บาท จนถึงตอนนี้พวกเขาขายหุ้นไปเกือบ 100 หุ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้หลายหุ้น แต่ละคนมีสิทธิ์ได้เพียงหนึ่งเสียงในกระบวนการตัดสินใจตามระบอบประชาธิปไตย นักลงทุนโหวตให้คอฟฟี่เคย์เป็นเกาะเขตร้อนทั่วไปที่เข้าถึงได้ง่ายพอสมควรและสามารถซื้อได้ทันที

นักลงทุนจะต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงจากพายุเฮอริเคนและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

คอฟฟี่เคย์ ถูกซื้อในราคากว่า 6 ล้านบาทบวกภาษี และการขายเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2019 ก่อนที่ โควิด-19 จะทำให้หยุดแผนใดๆ เพิ่มเติม สำหรับจอห์นสัน การเปลี่ยน คอฟฟี่เคย์ ให้เป็นประเทศจำลอง เป็นรูปแบบหนึ่งของการหลบหนีและการทดลอง “ใครที่ไม่เคยฝันที่จะสร้างประเทศของตัวเอง” เขาพูดว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกหลังทรัมป์, หลังโลกของโควิด หากคนธรรมดาจำนวนมากสามารถทำได้ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้” ไอส์แลนเดียได้เริ่มสร้างอุปกรณ์ตกแต่งตามประเพณีของรัฐชาติ มีเพลงชาติ ธงประจำเกาะ และรัฐบาลที่คัดเลือกมาจากบรรดานักลงทุน

กลุ่มนักลงทุน

คอฟฟี่เคย์ ยังคง ตกอยู่ภายใต้กฎหมายและพรมแดนของประเทศเบลีซอย่างเต็มที่ กลุ่มผู้เยี่ยมชมฉลองบนชายหาด คนหนึ่งกล่าวว่า “ฉันสามารถบอกเพื่อนของฉันทั้งหมดว่า ฉันเป็นเจ้าของเกาะ!” ออสการ์ ดี. โรเมโร ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ชาวเบลีซ กล่าวว่ากลุ่มต้องการ สร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โรเมโร อธิบายว่าพวกเขาต้องการใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุมัติจากรัฐบาลสำหรับการพัฒนาใดๆ โดยที่ทั้งป่าชายเลนและแนวปะการังในบริเวณใกล้เคียงมีสถานะได้รับการคุ้มครอง
เกาะนี้สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและช่วยสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ โครงการนี้ก็อาจเป็นพลังที่ดีได้
อนาคตของ คอฟฟี่เคย์ และอาณาเขตของไอส์แลนเดีย อยู่ในมือของนักลงทุน และยังคงเป็นที่ทราบกันดีว่าเกาะมีการพัฒนาอย่างไร และการทดลองกับลัทธิชาตินิยมเกิดขึ้นได้ไกลเพียงใด

ที่มา: CNN