หนุ่มกราบขอโทษแม่เพื่อน หลังต่อยกันดับ อ้างล้มหัวฟาดพื้น น็อกไปเอง รับเสียใจมาก ด้านแม่ไม่เชื่อ เผยคำพูดหลานเป็นลาง
จากกรณี น.ส.ส้มลิ้ม มาตย์โพนทอง อายุ 29 ปี ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ ทองสุข โปร่งทะเล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หลังจากนายไพฑูรย์ หรือทูล มาตย์โพนทอง อายุ 36 ปี พี่ชาย มีเรื่องชกต่อยกับนายน้อย เป็นการ์ดของผับแห่งหนึ่งใน อ.หนองกี่ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ต่อมาพี่ชายถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ และเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 3 ก.ค. ส่วนนายน้อยได้หายตัวไป
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชายน้อย หรือน้อย นานาวัน อายุ 39 ปี ชาว ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
นายน้อย กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ขณะร้านใกล้จะปิด ตนและพนักงานกำลังเดินดูความเรียบร้อย ส่วนลูกค้าเริ่มทยอยกลับ โดยมีลูกค้าที่นั่งอยู่ ซึ่งมีแต่เพื่อนที่รู้จักกัน รวมถึงนายทูลที่มีอาการมึนเมา พูดจาเสียงดัง เอะอะโวยวาย ระรานการ์ดภายในร้าน ตนจึงเดินไปบอกให้เบาเสียง ก็ยังพูดก่อกวนยั่วยวนอีก จึงหันหลังเดินหนี แต่นายทูลพูดคำว่า “พ่อง” ตนจึงหันกลับมาถามว่า “แล้วจะเอาไง”
นายน้อย กล่าวต่อว่า นายทูลได้ท้าชกต่อยกันแบบตัวต่อตัว ตนจึงตอบตกลง จนมีเพื่อนเข้ามาห้ามปรามแล้วแยกย้ายกันไป แต่นายทูลยังยืนอยู่หน้าร้าน พอตนหันไปมองอีกครั้งก็เห็นล้มไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว หลังจากนั้นมีเพื่อนพยุงนายทูลซ้อนรถจักรยานยนต์กลับ ยืนยันว่านายทูลล้มหัวฟาดพื้นน็อกไปเอง
นายน้อย กล่าวอีกว่า จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็มีเพื่อนมาบอกว่านายทูลถูกหามส่งเข้าโรงพยาบาล ตนตกใจมาก จะไปเยี่ยมดูอาการ แต่ทราบว่าถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จึงได้แต่คุยถามอาการผ่านน้องชายนายทูล วันนี้มารู้ว่าเสียชีวิต ตนเสียใจมาก ส่วนหนึ่งคิดว่าการต่อยกันไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตายได้ ตนรู้มาว่านายทูลเคยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบตอนไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่ไหมที่ทำให้เสียชีวิต จึงอยากจะขอโทษแม่ผู้ตาย
ด้านนางบุญร่วม มาตย์โพนทอง อายุ 62 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า นายน้อยเป็นเพื่อนกับลูกชายมานานทำไมต้องทำร้ายให้ถึงกับเสียชีวิต ตนยังรับไม่ได้กับการสูญเสียลูกชาย ถ้านายน้อยจะไปขอขมาศพ ก็ไม่ว่า แล้วแต่เจ้าตัว
นางบุญร่วม กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกชายล้มศีรษะฟาดพื้นแล้วน็อกไปเอง เพราะดูสภาพบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้างบวม คางแตก ลักษณะเหมือนถูกทำร้าย ก่อนหน้านี้หลานซึ่งเป็นลูกชายนายทูล ได้ตะโกนบอกกับพ่อช่วงที่จะออกไปร้านอาหารว่า “พ่อไม่ต้องกลับมานะ” ตนไม่คิดเลยว่าคำพูดของหลานจะเป็นจริง
ส่วนทางด้านคดี พนักงานสอบสวนยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับนายน้อย เนื่องจากกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย