หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ หลัง พรพิมล ฟ้องเอาผิดละเมิดลิขสิทธิ์ 10 ล้าน

Home » หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ หลัง พรพิมล ฟ้องเอาผิดละเมิดลิขสิทธิ์ 10 ล้าน



หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ หลัง พรพิมล ฟ้องเอาผิดละเมิดลิขสิทธิ์ 10 ล้าน

หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ / จากกรณีดราม่าเรื่องค่าใช้จ่าย การจัดงานคอนเสิร์ต “99 ปี ครูชาลี อินทรวิจิตร เพลงคู่แผ่นดิน หนึ่งในจักรวาล” โดยมี พรพิมล มั่นฤทัย ประธานบริหาร บริษัท โคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ร่วมกับ หนึ่ง-จักรวาล เสาธงยุติธรรม มิวสิคไดเร็กเตอร์

หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ

โดยก่อนหน้านี้ ทางพรพิมลได้ให้เงินไว้เป็นค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาท ส่วน หนึ่ง จักรวาล ไม่ได้เบิกเงินก้อนนั้นไปใช้เพราะเกรงใจเห็นว่าเป็นเงินของผู้ใหญ่ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอื่นจริง ประมาณ 1.4 ล้านบาท ซึ่งมีช่วงหนึ่ง ที่หนึ่ง จักรวาลได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยใช้คำว่า “ควักเงินส่วนตัวสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน” สร้างความไม่พอใจให้กับทางพรพิมล ที่ถูกทำให้สังคมเข้าใจผิด จนเรื่องราวบานปลายมีการฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์เพลงกันเกิดขึ้น ทางพรพิมล เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท แต่ภายหลังหลวงพ่อวราห์ ปุญญวโร (พระครูวิศิษฏ์วิทยาคม) ได้ขอให้ยุติความบาดหมาง ทางพรพิมลจึงตัดสินใจลดมูลค่าฟ้องร้องเหลือเพียง 2 แสนบาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 65 พรพิมล มั่นฤทัย ประธานบริหาร บริษัท โคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด พร้อมด้วย หนึ่ง-จักรวาล เสาธงยุติธรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องอาทิ ตุ๊กติ๊ก-เบญจวรรณ (ภรรยาหนึ่ง จักรวาล), ชุมศักดิ์ สุกาญจนะ (ที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย บริษัท โคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพร์ส จํากัด) ได้จัดแถลงข่าวเคลียร์ใจกับดราม่าที่เกิดขึ้น ที่ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ

ตุ๊กติ๊ก “วันนี้ที่เชิญมา เพราะจะมามอบเงินให้กับสมาคมดนตรีฯ ตอนนี้ก็กำลังงงอยู่ว่าเราโดนเชิญมาด้วยเรื่องอะไร ทราบแค่ว่าจะมามอบเงินให้สมาคมดนตรีฯ”
หนึ่ง “ก็เรื่องงานครูชาลีครับ แต่เราเข้าใจกันแล้ว ก็ไปถอนกันที่ศาล ต่างคนต่างเข้าใจกันแล้วครับ”
พรพิมล : “ก็เมื่อเราได้เคลียร์กันที่ศาล เมื่อวันที่ 19 ต.ค. จาก 10 ล้าน เหลือ 2 แสน อันนั้นก็คือพรพิมลไม่ได้เอาไว้ แต่จะมอบให้กับ 1.ทางครูอ่อน 5 หมื่น 2.มอบให้กับทางสมาคมดนตรีฯ 5 หมื่น 3.อีก 1 แสนบาท ก็ถวายให้พระอาจารย์วราห์ ทุกอย่างที่ข้องใจกัน ให้รู้ว่าไม่ได้ติดใจอะไรกันแล้ว เพราะพระอาจารย์วราห์ขอบิณฑบาตรมา พรพิมลก็ให้ท่าน เพราะถือว่าอย่างน้อยอยู่ในวงการเดียวกัน”
หนึ่ง “จริงๆ ผมไม่อยากให้เอ่ยชื่อหลวงพ่อครับ”
ตุ๊กติ๊ก “ใช่ค่ะ ไม่น่าเอามาเกี่ยว”

พรพิมล “ก็เป็นสิ่งที่พระอาจารย์มีความรู้สึกที่ดีทั้งสองฝ่าย ท่านก็ไม่ได้เสียหาย เพราะเราก็สนิทกับท่าน เมื่อท่านบิณฑบาตรมา เราก็รู้สึกว่าถ้าท่านขอมาแล้ว ทำไมเราจะไม่ให้ เราก็ต้องให้ วันนี้ที่คุณหนึ่งมามอบให้ 2 แสน เพื่อเราจะได้เอามามอบต่อตามที่คุยกัน”
ทนายความ “จากที่ผมได้บอกในที่ประชุมว่าที่คุณหนึ่ง คุณตุ๊กติ๊กและคณะได้กล่าวคำกราบขอโทษขออภัย ยอมรับผิดทุกอย่างจากคุณพรพิมล”

หนึ่ง “ต่างฝ่ายต่างขอโทษด้วยกัน เพราะทางนี้ก็ต้องขอโทษเราด้วย”
ทนายความ “ก็หลังจากที่ท่านกล่าวเสร็จ ผมก็ถามคุณจักรวาลว่า ที่ท่านกล่าวขอโทษขออภัย ขอยอมรับผิดทุกเรื่อง มันคือเรื่องอะไรบ้าง คุณจักรวาลก็ไม่ได้ตอบ ไม่ได้โต้แย้ง แล้ววันนั้นเราก็พูดในเรื่องที่เกี่ยวพันทั้งหมด ในเรื่องที่คุณเคยไปแถลงข่าวก่อนจัดงานว่า จะไม่ขอรับเงินค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทำเพื่อเชิดชูบูชาครู แต่ทางเราก็ได้บอกว่ามันเกี่ยวพันกันทั้งหมดหลายเรื่อง เราก็ไปแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ข้อเท็จจริงต่างๆ มันก็ปรากฏในข้อบันทึกนั้นทั้งหมดแล้ว”

หนึ่ง “วันนี้เขาเข้าใจกันทั้งหมดแล้ว อย่าสาว จริงๆ น่าจะจบแล้ว”
พรพิมล “ก็ที่คุณตุ๊กติ๊กบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง คุณทนายก็เลยรู้สึกว่ามันเกี่ยวทั้งหมด”
ทนายความ “จากที่บอกว่าไม่ขอรับเงิน แต่วันที่ 9 ก.พ. 65 มีสำนักงานกฎหมายที่คุณมอบอำนาจ ยื่นโนติสมาเรียกเงิน 3.7 ล้าน”

ตุ๊กติ๊ก “ก็ที่บอกว่าพี่หนึ่งขอโทษทุกสิ่งทุกอย่าง เดี๋ยวภาพจะออกมาว่าที่ผ่านมาผิดแล้วไม่ยอมรับผิดเหรอ ต้องบอกว่าพี่หนึ่งขอโทษในฐานะที่ป้าพรรู้สึกน้อยใจประเด็นอะไรต่างๆ พี่หนึ่งในฐานะเป็นเด็กก็รู้สึกว่าอยากให้จบ ถ้าทำร้ายจิตใจอะไรก็ขอโทษ เราบอกว่าเราขอโทษในฐานะที่เราเป็นเด็ก และตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจแล้ว และพูดคุยกันว่าประเด็น 4 ล้านก็เข้าใจผิดเหมือนกัน เพราะเราไม่เคยเรียกเงิน 4 ล้าน จริงๆ สัญญานี้ไม่ได้มีแค่ทางเราเลย ทางป้าพรและมีกรรมการท่านอื่นๆ ด้วย และทุกคนก็เข้าใจกันแล้ว ที่ผ่านมาเป็นการเข้าใจผิดกัน วันนี้เราก็ได้เอาเงินตรงนี้มอบให้ผู้ใหญ่ในหลายๆ ส่วน ก็คิดว่ามันควรจะจบลงด้วยดี เอาเป็นว่าประเด็นเรื่อง 4 ล้านมันไม่เคยเกิดขึ้นนะคะ”

 

หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ

พรพิมล “ถ้าบอกว่าประเด็น 4 ล้านไม่เคยเกิดขึ้น ขออนุญาตพูดจะได้เข้าใจ (ดูในเอกสาร) ที่ส่งมาวันที่ 23 มี.ค. ที่ส่งมา 3,180,000 บาท ในเวลา 14.30 น. วันเดียวกันเวลา 17.17 น. 4,360,000 บาท ถึงได้เกิดกรณีมีปัญหากันขึ้น”

หนึ่ง “จริงๆ มันไม่ถึง”
พรพิมล “ก็มาคิดตอนหลังว่าอยู่ที่ 1.4 ล้าน”
หนึ่ง “จริงๆ ผมบอกว่าขอแค่ 1.4 ล้าน แต่ป้าพรบอกว่าขอรายจ่ายจริงได้มั้ย อยากรู้ เราก็บอกว่าจริงๆ ไม่ต้องรู้เลย เพราะรายจ่ายจริงมันจะแพงมาก เพราะผมไม่ได้คิด ผมแค่ทำส่งไปให้เท่านั้นเอง”

พรพิมล “เอาเป็นว่าเราเข้าใจกันแล้ว แต่คนอื่นเขายังไม่เข้าใจ จากที่เราแถลงข่าววันนั้น เขาก็สามารถกลับไปดูในสื่อได้ แต่วันนี้เราก็พูดกันเพื่อให้เกิดความเคลียร์ ความชัดเจน”
ตุ๊กติ๊ก “ขอนะคะ ใครอย่าเอาประเด็น 4 ล้าน 3 ล้านอะไร เรามีแค่ 1.4 ล้าน และศิลปินทุกคนรับทราบราคาตรงนั้นแล้ว”
พรพิมล “ฟังก่อนนะ จะ 3 หรือ 4 ล้านที่ปรากฏ แต่สรุปแล้วเราจ่ายให้เธอไป 1.4 ล้าน ถูกต้องไหม เราจ่ายเรียบร้อยแล้วนะ”
ตุ๊กติ๊ก “ใช่ค่ะ เพิ่งจ่ายไปเมื่อประมาณปลายเดือนที่แล้ว เราได้เงินแล้วนะคะ (ยิ้ม)”

พรพิมล “ที่จ่ายเรียบร้อย เพราะว่าจริงๆ แล้วเราไม่ต้องจ่าย จ่ายแค่ 4 แสนกว่า แต่หนึ่งล้านมันอยู่ในบัญชีอยู่แล้ว แต่เธอไม่ได้เอามาใช้”
ตุ๊กติ๊ก “อันนั้นเราก็คงจะเข้าใจผิดว่าป้าพรให้เอาไปใช้ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ เพราะเราเข้าใจผิด”
หนึ่ง “เราใช้ไม่ได้ เป็นเงินผู้ใหญ่ เราเอามาใช้ไม่ได้”

หนึ่ง จักรวาล เคลียร์ใจ

พรพิมล “ไม่ใช้ได้ยังไง ทำอะไรก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าใช้จ่าย จะทำงานได้ยังไง”
ตุ๊กติ๊ก “ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดว่าเราใช้ได้ แต่เราไม่กล้าเอาไปใช้ ยิ่งเป็นเงินบริจาคของประชาชนด้วย ก็อาจจะทางทีมงานหนูเข้าใจผิด”

พรพิมล “ไม่ใช่ๆ เงิน 1 ล้านบาทเปิดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของการจัดทำการคอนเสิร์ต”
ตุ๊กติ๊ก “ก็ใช่ค่ะ แต่ป้าพรก็เอาเงินส่วนตัวของป้าพรมาใส่ไปให้”

พรพิมล “ก็ไปเปิดบัญชีให้ก่อน โดยเธอเซ็น คุณชัยยงค์เซ็น และนายจำลองเซ็น 3 ท่าน เข้าใจนะ”
ทนายความ “แล้วสมุดบัญชีอยู่ที่ใครตั้งแต่วันนั้น”
พรพิมล “อยู่ที่คุณตุ๊กติ๊ก”

หนึ่ง “เราใช้ไม่ได้ครับ เงินผู้ใหญ่เราใช้ไม่ได้ อีกอย่างต้องมีคนเซ็น 3 คน เอาน่า จบน่า มันจบแล้ว ปีใหม่แล้ว”

ทนายความ “ผมต้องพูดให้ทางสื่อมวลชนได้รับทราบด้วย ว่าทนายความผู้รับมอบอำนาจในคดีที่เรียกมา 3.7 ล้าน คุณได้สั่งยุติหรือยัง”
หนึ่ง “เขาเข้าใจแล้ว อย่าสาวเรื่องเลยครับ”
ตุ๊กติ๊ก “คุณอาคะ เราไม่มีราคาตรงนี้นะคะ เพียงแต่เรื่องมันผ่านไป 1 ปีแล้ว เรายังไม่ได้ค่าใช้จ่าย ก็เพิ่งได้ปลายเดือนที่แล้ว”

ทนายความ “ผมได้ถามคุณทั้งสองว่า ทางท่านได้สั่งให้ทนายความยุติเรื่องนี้ไปหรือยังที่ยื่นโนติสมา”
ตุ๊กติ๊ก “ก็ไม่มีแล้วค่ะ คือเราไม่ได้เงินใน 3 ล้านตรงนี้”
หนึ่ง “เขาจบหมดแล้วคุณลุง”
ตุ๊กติ๊ก “ตอนนี้เราได้รับเงินแล้ว งานก็จบไปด้วยดีนะคะ”

พรพิมล “ก็ต้องถามต่อเรื่องทำเอกสารกันต่อนะ เรื่องลิขสิทธิ์ เพราะเรายังไม่ได้ทำเอกสารให้เกิดความสมบูรณ์ คือเราจะถอนฟ้องต่อเมื่อทุกอย่างมันจบจริงๆ”
หนึ่ง “ก็วันนี้เราก็เอาเงินมามอบให้ครูครับ”

พรพิมล “พูดกันตามความจริงก่อน การจัดคอนเสิร์ตมันต้องมีต้นฉบับ 1 ชุดใหักับผู้จัด ไม่ใช่ไม่มี แล้วคุณจะบอกว่าเสียงไม่ดีแล้วไม่ลง ยังไงก็ต้องมี ดีไม่ดีก็ต้องมี เราจะได้รู้ว่าเป็นยังไง ถามว่ายังติดใจอะไรไหม ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วค่ะ หลังจากที่เคลียร์เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอว่าทุกอย่างต้องจบเสร็จจริงๆ ก็ถึงจะไปถอนฟ้อง ซึ่งที่ฟ้องค้างอยู่ตอนนี้ก็คือเรื่องตัวลิขสิทธิ์ จะยังไงก็ต้องทำขึ้นมา ไม่ทำไม่ได้ เพราะเกิดการเผยแพร่แล้ว อันนี้ในส่วนของครูจิราวุฒิที่เป็นลูกชายครูสมานที่เป็นคนทำทำนอง ซึ่งครูไม่คิดค่าทำนองเลยแม้แต่บาทเดียว”

หนึ่ง “ผมก็เคลียร์ทุกอย่างที่เข้าใจผิดกัน เคลียร์เรียบร้อยหมดแล้วครับ วันนี้ก็นำเงินมา เราตั้งใจเพราะเราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ที่ศาลว่าจะนำเงิน 2 แสนมามอบให้ครู วันนี้ก็เตรียมมาแล้ว ก็จบแล้วครับ แต่เรื่องยูทูบทางเราไม่มี เพราะพอเห็นคนอื่นลง เราก็รู้สึกเกรงใจแต่ละท่านที่ร้องไปแล้วเสียงไม่ดี เราก็เลยไม่ลง”

ตุ๊กติ๊ก “ต้องขยายความเรื่องลิขสิทธิ์ของป้าพรที่ผู้ใหญ่จะให้พี่หนึ่งทำต่อ คือเผอิญว่าตอนแรกป้าพรทำเอกสารชื่อป้าพร ทีนี้ป้าพรก็อยากให้เปลี่ยนเป็นชื่อบริษัท ทีนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะว่าจะต้องไปเปลี่ยนกับทางยูทูบ ก็กำลังรอดำเนินการค่ะ จริงๆ วันที่ไปแกรมมี่ ความตั้งใจดีของเรามีสิ่งเดียวเลยค่ะว่า เราอยากไปแสดงความสำเร็จเท่านั้นเอง แต่เผอิญนักข่าวก็ถามในประเด็นอื่นๆ มา เราก็เลยต้องอธิบายไป จริงๆ วันนั้นเชิญป้าพรไปด้วย แต่ป้าพรติดงาน ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ได้เคลียร์กันยาว จนกระทั่งมันมีประเด็นอื่นๆ ต่ออีก แล้วเราไม่ได้คุยกัน แต่พอคุยกันก็เคลียร์กันแล้วว่าเราเข้าใจผิดอะไรกันไป และในฐานะเราเป็นเด็กก็ไม่ได้ถามอะไรเยอะ พี่หนึ่งก็พูดออกมาเลยว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ป้าพรไม่สบายใจก็ต้องขอโทษแล้วกัน เราไม่ได้ขอโทษในสิ่งที่เรารับผิดนะ แต่เราขอโทษในสิ่งที่เราเป็นเด็ก ก็รู้สึกว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ เพราะบางทีการเป็นเด็กเราอาจจะไม่รู้ว่าการทำงานผู้ใหญ่อาจจะมองอีกมุมนึง เราเป็นเด็กมองอีกมุมนึง และในฐานะเด็กถ้าทำให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว”

พรพิมล “น้องพูดไม่ค่อยไพเราะเลยนะ อันนี้พูดตามจริงก่อน ในความผิดที่เราไม่ได้ทำผิด ผิดเพราะว่าเราเป็นเด็ก ไม่ใช่ และเรื่องที่ไปแถลงข่าวช่องวัน น้องก็พูดเองว่าไม่จ่ายค่าใช้จ่าย เหตุมันเกิดเพราะคำพูดคำเดียวเท่านั้นเอง ว่าเราไม่จ่ายค่าใช้จ่าย เพราะหนึ่งต้องมาควักเงินเอง น้องพูดแบบนี้ต่างหาก เราฟังจากในทีวีแล้วมีความรู้สึกว่า เราเปิดบัญชีให้ 1 ล้านบาทแล้ว เพื่อไปสำรองจ่ายให้ไปจ่ายค่าใช้จ่าย เมื่อเปิดไปแล้วเธอไม่ใช้ แต่การเปิดตรงนั้นหนึ่งไม่ได้ไปด้วย เราคุยพร้อมกันทุกครั้ง หนึ่งไม่เคยอยู่ที่ประชุม ตุ๊กติ๊กเขาอยู่คนเดียว แล้วพูดทำไมว่าไม่ควักเงิน ไม่จ่ายเงิน ทำให้เราต้องมาควักเงินสำรองเราเอง พูดไม่ได้ มันถึงได้เป็นเรื่อง ถ้าตุ๊กติ๊กยังไม่ยอมหยุดพูด ฉันก็ต้องชี้แจง”

ตุ๊กติ๊ก “หนูขอขยายความก่อน พอดีตอนนั้นนักข่าวถามมาเรื่องเงิน 4 ล้าน เราก็เลยต้องอธิบายไปในประเด็นนั้น เราตอบคำถามเพราะนักข่าวถามมา ถ้านักข่าวไม่ถามเราก็ไม่ตอบไปประเด็นนั้นนะคะ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าป้าพรบอกว่าใช้ได้ แต่เราไม่รู้เอง ก็เลยยอมรับตรงนี้ว่าไม่รู้เอง แต่เราก็ไม่กล้าเอาไปใช้ ก็บอกป้าพรว่าหนูไม่กล้าเอาไปใช้จริงๆ เพราะถ้ายอดมันยังไม่เคลียร์ ผู้ใหญ่หรือกรรมการยังไม่ได้รับทราบ เราก็เลยไม่กล้าเอาไปใช้”

พรพิมล “ตุ๊กติ๊กนี่พูดเยอะนะ เธอยิ่งพูดมากยิ่งจะเข้าตัวเอง เพราะเอกสารฉันมีหมด เอามาจากเธอทั้งหมด อย่าพูดเยอะ
หนึ่ง “เอาเป็นว่าผมผิดทั้งหมด ง่ายดี จะได้จบ
พรพิมล “ฉะนั้นเวลาคุยทุกอย่าง ถ้าคุยมาก เราต้องเอาชัดเจน ถ้าเธอยิ่งคุยมากยิ่งจะเข้าตัว เพราะเอกสารเธอเองส่งให้ฉัน มันเป็นหลักฐานทั้งหมด ไม่ใช่ทำขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นตุ๊กติ๊กจะพูดอะไรต้องคิดซะก่อนนะ”

ตุ๊กติ๊ก “(ยกมือไหว้พรพิมล) ต้องกราบขออภัยป้าพรด้วยนะคะ แต่เข้าใจป้าพร เข้าใจทุกคน ไม่อยากให้ผู้ใหญ่น้อยใจ
พรพิมล “ไม่ใช่น้อยใจ จริงๆ พี่เอ็นดูเธอทั้งคู่อยู่แล้ว เพียงแต่เราไม่ได้ประสานกัน ตุ๊กติ๊กตัดสินใจเอง มันเลยทำให้ไม่เข้าใจกัน จนประสานกันไม่ได้เลย มันเลยทำให้มีปัญหา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ