หดหู่ ยายพาหลาน ป.4 มาลาออก ครูรู้ความจริงแทบร้องไห้ เคยจูงหลานไปตายด้วยกัน

Home » หดหู่ ยายพาหลาน ป.4 มาลาออก ครูรู้ความจริงแทบร้องไห้ เคยจูงหลานไปตายด้วยกัน
หดหู่ ยายพาหลาน ป.4 มาลาออก ครูรู้ความจริงแทบร้องไห้ เคยจูงหลานไปตายด้วยกัน

ยายพาหลาน ป.4 มาลาออกจากโรงเรียน ครูรู้ความจริงแทบร้องไห้ เคยจูงหลานไปตายด้วยกันหนีความยากลำบาก

ล่าสุดมีเรื่องราวที่ทำให้คุณครูที่โรงเรียนเทศบาลวัดเกตการาม ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ต้องสะเทือนใจเมื่อนางแสงจันทร์   อายุ 67 ปี พา ด.ช.นภัสกร หรือ น้องนะโม อายุ 10 ปี หลานชายสมาธิสั้นและสติปัญญาบกพร่อง ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น​ป.4 มาลาออกกระทันหัน โดยบอกว่าชีวิตยายหลานต้องประสบกับความยากลำบากเพราะยายตกงาน ไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อหาอาหาร ส่วนเงินค่าขนมให้หลานไปโรงเรียนแต่ละวันต้องไปหาหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมาให้เพราะกลัวหลานจะไม่ได้กินขนม ล่าสุดยังไม่มีเงินค่ากิจกรรมทัศนศึกษาของทางโรงเรียน 130 บาท เพราะจนปัญญาไม่รู้จะไปหาที่ไหน จึงตัดสินใจขอลาออก

หลังคุณครูทราบเรื่องจึงได้รายงานให้กับนางสาวอินทร์ริตา ยาวิชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดเกตการามได้ทราบ ก่อนที่ทั้งผู้อำนวยการและคณะครูจะพากันลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านด้วยด้วยความเป็นห่วง โดยพบว่าบ้านพักของสองยายหลานเป็นบ้านชั้นเดียวสภาพเก่าและคับแคบและภายในบ้านยังมีญาติที่ป่วยติดเตียงต้องดูแลอีกหนึ่งคน

ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดเกตการาม บอกว่า สภาพความเป็นอยู่ของสองยายหลานเป็นไปอย่างยากลำบาก ยายที่เคยทำงานรับจ้างล้างจานในร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านก็ต้องตกงานเพราะร้านปิดกิจการ ประกอบกับอายุมากและยังต้องดูแลคนป่วยติดเตียง ทำให้จะไปทำงานอะไรก็ลำบาก ทุกวันนี้ไม่มีรายได้ แต่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพทั้งค่ายาที่ต้องกินทุกวัน ในส่วนค่าขนมของหลานก็ต้องไปตระเวนหยิบยืมจากชาวบ้านเพราะกลัวหลานจะไม่ได้กิน เวลาไปโรงเรียนก็ต้องเดินไปส่งจากบ้านถึงโรงเรียนใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพราะไม่มีแม้กระทั่งจักรยาน

จากการพูดคุยกับนางแสงจันทร์​ยังทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน นางแสงจันทร์หมดหนทางถึงขั้นจูงมือหลานไปที่สะพานจันทร์สม ย่านตลาดต้นลำไย อ.เมืองเชียงใหม่ หวังพาหลานไปกระโดดน้ำจบชีวิตหนีความยากจน แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่หลานกระตุกแขนบอกว่ายังไม่อยากตาย ทำให้ดึงสติกลับมาและพาหลานเดินกลับบ้านทั้งน้ำตา นางสาวอินทร์ริตา ​บอกว่า ปกติทางโรงเรียนจะเยี่ยมบ้านเด็กทุกคนอยู่แล้ว แต่เพิ่งมาทราบว่ายายตกงานขาดรายได้ ทางโรงเรียนไม่ต้องการให้น้องนะโมลาออกเพราะกลัว​จะเสียโอกาสทางการศึกษาจึงได้รายงานให้กับนายสุนทร ยามศิริ รองนายก​เทศมนตรีนครเชียงใหม่ที่ดูแลสำนักการศึกษาได้ทราบ ซึ่งผู้บริหารยืนยันหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งในเรื่องของการศึกษาและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่

ขณะที่เบื้องต้นตนเองได้จ่ายค่าทัศนศึกษากับน้องนะโมแทนคุณยาย เพื่อจะไม่เสียโอกาสได้ไปกับเพื่อน ๆ และในทุกเย็นจะให้แม่ครัวของโรงเรียนจัดแบ่งอาหารจากมื้อกลางวันไปให้กับสองยายหลายรับประทานเป็นมื้อเย็น พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากนายเทพสุริยา สะอาด ผู้อำนายการกลุ่มงานบุคคลทางการศึกษาท้องถิ่นกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมกับเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ ด้วย

ล่าสุด นายสุนทร ยามศิริ รองนายกเทศมนตรี , นายมนต์ชัย พงษ์เกียรติก้อง รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ ลงพื้นที่ให้เยี่ยมสองยายหลาน พร้อมรับปากจัดหาเงินสวัสดิการจากกองทุนต่าง ๆ ของเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ พร้อมให้ทางโรงเรียนดูแลสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการศึกษา นางแสงจันทร์ เล่าว่า แม่ของน้องนะโมนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่อายุ 6 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ชีวิตที่ผ่านมาลำบากมากเพราะยากจน ก่อนหน้านี้ต้องหาเงินเติมน้ำมันให้คนแถวบ้านไปรับส่ง ช่วงหลังตกงานไม่มีเงินก็ต้องเดินจากบ้านไปส่งโรงเรียนใช้เวลานานเกือบชั่วโมง ส่วนเงินไปโรงเรียนก็ลดลงเหลือวันละ 20 บาท

ที่ผ่านมาตนเองได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ก็เก็บไว้ให้หลาน ยายยอมอดมื้อกินมื้อ ยอมกินข้าวต้มกับเกลือ อยากให้หลานได้เรียนหนังสือ ยอมรับว่าที่ผ่านมาสิ้นหวัง ตัดสินใจพาหลานจะไปกระโดดน้ำปิงตายให้จบๆ เรื่อง แต่มาคิดอีกทีก็กลัวตัวเองตายแต่หลานไม่ตาย หลานจะยิ่งลำบากไปกว่านี้ หลายครั้งที่กอดกันร้องไห้กับ โชคชะตาชีวิต ส่วนความช่วยเหลือจากทางโรงเรียนและเทศบาลนครเชียงใหม่ ตนเองต้องขอขอบคุณและซาบซึ้งใจ หวังเพียงแต่ว่าให้มีข้าวกินและให้หลานได้เรียนหนังสือก็พอแล้ว สำหรับใครที่ต้องการช่วยเหลือสองยายหลานสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โรงเรียนเทศบาลวัดเกตการาม อ.เมืองเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 243945  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ