หดหู่! ป.6 ข่มขืน ป.5 ผู้ปกครองบุกร้องเรียน ผอ.แจ้งอย่าบอกใคร “ไม่ท้องหรอก”

Home » หดหู่! ป.6 ข่มขืน ป.5 ผู้ปกครองบุกร้องเรียน ผอ.แจ้งอย่าบอกใคร “ไม่ท้องหรอก”

สลด! โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.เพชรบูรณ์ เด็กป.6 ข่มขืน เด็กป.5 ผู้ปกครองทราบเรื่องบุกร้องเรียนแต่ ผอ.บอกเด็กว่า “ไม่ท้องหรอก”

วันนี้ 27 มิ.ย. 65 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้โพสต์ข่าวอันน่าสลดใจ และหดหู่สำหรับในยุคนี้เมื่อโรงเรียนเปิดเทอมก็เกิดเรื่องราวขึ้นเลย เนื่องจากเกิดเหตุ เด็กป.6 ข่มขืน เด็กป.5 เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องจึงเข้าร้องเรียน ด้าน ผอ. กลัวตนเองเสียหายจึงบอก เด็กป.5 ว่าไม่ให้แจ้งผู้ปกครองเพราะคงไม่ตั้งครรภ์หรอก

เด็กป.6 ข่มขืน เด็กป.5 ภายในอาคารเรียน ผู้ปกครองบุกร้อง หลัง ผอ.โรงเรียน ห้ามเด็กบอกผู้ปกครอง บอก ‘ไม่ท้องหรอก’

วานนี้ วันที่ 26 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเด็กนักเรียนชาย ป.6 ข่มขืน เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.5 อายุ 11 ปี ภายในอาคารเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของ วันอังคาร ที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา แต่ทางด้านนางลิลาวัลย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกกับเด็กหญิงบี(นามสมมุติ) ว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครองเด็ดขาด เพราะทาง ผอ.จะเสียหายได้ ซึ่งเด็กหญิงบี ก็ทำตามที่ ผอ.บอก คือไม่ยอมบอกผู้ปกครอง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ ที่ผ่านมา ทางผู้ปกครองเด็กบังเอิญได้ยินเด็กหญิงบี กำลังคุยปรึกษากับพี่ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ว่าจะทำยังไงดี ผอ.ไม่ให้บอกให้ปิดเป็นความลับ ทางผู้ปกครองจึงได้เรียกเด็กหญิงบี มาถามว่ามีเรื่องอะไรที่โรงเรียน เด็กหญิงบี จึงได้เล่าทุกอย่างให้ผู้ปกครองทราบ

เมื่อผู้ปกครองของเด็กหญิงบี ทราบเรื่องก็พากันตกใจ ปรึกษากันภายในญาติ และเรียกทางผู้ใหญ่บ้านมาพูดคุย ถึงปัญหาที่เกิดเหตุว่า ไม่สมควรที่จะเกิดภายในโรงเรียนได้ และยังเป็นเวลาราชการที่เด็กอยู่ในความดูแลของครูในโรงเรียน อีกทั้ง ผอ.โรงเรียน ยังไม่ให้เด็กบอกผู้ปกครองอีก

ต่อมาเมื่อเช้าวันเสาร์ ที่ 24 มิถุนายน 2565 ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันเดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อพบกับ ผอ.โรงเรียน พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และทางชาวบ้านก็ได้ปรึกษาและลงความเห็นให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียน เพราะรับกับพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้

ด้านนางสาวเอ(นามสมมุติ) น้าของเด็กหญิงบี(นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ในวันเกิดขึ้นหลังจากเกิดเรื่อง เด็กหญิงบี ก็วิ่งร้องไห้ไปบอกครูท่านหนึ่ง และครูท่านนี้ ก็พาไป เด็กหญิงบี ไปบอกกับ ผอ. แต่ทางด้าน ผอ. กลับบอกกับเด็กว่า ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครอง เพราะจะทำให้ ทางผอ.เสียหาย และอีกอย่างก็ไม่ท้องหรอก และเมื่อวานที่พวกตนและชาวบ้านคนอื่นๆ รวม 30 คน เดินทางไปที่โรงเรียนนั้น ผอ.กลับพูดอีกอย่างคือบอกว่า ไม่ได้ห้ามเด็กไม่ให้บอกผู้ปกครอง แต่บอกว่าอย่าเพิ่งบอก ซึ่งตนไม่รู้ว่าอย่าเพิ่งบอก คือเมื่อไหร่ หรือต้องให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กคนอื่นภายในโรงเรียนอีก ถ้าไม่เค้นจากเด็กป่านนี้ก็คงไม่มีใครทราบเรื่อง

นอกจากนี้ เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา เด็กชายเอ็ม(ผู้ก่อเหตุ) ก็เคยมีพฤติกรรมชอบไป กอด หอม และจับหน้าอกเด็กนักเรียนหญิง มาแล้ว ถึง 5 คน ซึ่งตอนนั้นทางปกครองเด็กชายเอ็ม ก็ได้ตักเตือนเด็กชายเอ็ม ไปแล้ว เรื่องก็เงียบไปเหมือนจะดีขึ้น จนกระทั่งล่าสุดมาเกิดเรื่องขึ้นกับหลานสาวตัวเอง ถึงขึ้นมีอะไรกัน ซึ่งเด็กชายเอ็ม ได้ใช้กำลังลงมือข่มขืนหลานสาวตนเอง เด็กวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากครู แต่คนที่เป็นครู และเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน กลับแนะนำเด็กแบบนี้ ซึ่งตนรับไม่ได้

ขณะที่ยาย ของเด็กหญิงบี บอกว่า ตั้งแต่รู้เรื่องตนก็นอนไม่หลับ เป็นกังวล กลัวหลานสาวจะท้อง เพราะหลานสาวมีประจำเดือนแล้ว และเป็นห่วงจิตใจหลานสาว กลัวว่าจะโดนเพื่อนล้อ แล้วหลานตนจะอยู่ในสังคมได้ยังไง และที่สำคัญรับไม่ได้กับคำพูดของ ผอ.โรงเรียน ที่ห้ามเด็ก ไม่ให้บอกทางบ้าน ตนรับไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาปิดบัง ทำไมคนเป็นถึง ผอ.โรงเรียน คิดได้แค่กลัวว่าตนจะเสียหายแค่นั้นหรือ แล้วทำไมไม่คิดถึงสภาพจิตใจของเด็กบ้าง

ขอบคุณรูปภาพ : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

ด้านผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง (สมาชิก อบต.ในพื้นที่) บอกว่า เมื่อวานตนทราบเรื่อง ว่าชาวบ้านว่ามีการรวมตัวขับไล่ ผอ.โรงเรียน จึงได้เดินทางไปร่วมฟัง โดยเรื่องดังกล่าว ทาง ผอ.โรงเรียน ยอมรับผิด แต่ผิดยังไงนั้น ผอ.แกไม่พูด ด้านชาวบ้านจึงได้ยกมือลงความเห็นกัน ว่าให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียน เพราะรับไม่ได้กับการแก้ไขปัญหาของ ผอ.

อ่านข่าวที่น่าสนใจ