ผู้หญิงวัย 49 ปีในสหราชอาณาจักร บอกเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังจากป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรง ใบหน้าของเธอบวมจนแทบระเบิด และเธอไม่สามารถลืมตาได้เป็นเวลานานถึง 2 วันคล้ายกับคนตาบอด และเกือบจะตาบอดจริงๆ ด้วยซ้ำ แม้ว่าตอนนี้เธอจะหายจากอาการเหล่านี้แล้ว แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่สัมผัสสีย้อมอีกเด็ดขาด

ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ “Saffron Veal” เริ่มย้อมผมตั้งแต่อายุ 16 ปี ก่อนหน้านี้เธอมีอาการแพ้เนื่องจากการใช้สีย้อมถาวรที่มีแอมโมเนีย แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าเกิดจากตัวยา ดังนั้น คราวนี้เมื่อเธอต้องไปงานรวมตัวญาติ จึงเปลี่ยนมาใช้แบบกึ่งย้อมถาวร ซึ่งหลังจากย้อมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เธอก็สูญเสียการมองเห็นในดวงตาข้างหนึ่งทันที และเมื่อส่องกระจกก็ต้องตกใจอย่างมากจนต้องอุทานออกมาว่า “ฉันดูเหมือนตัวกระแต หรือลูกโบว์ลิ่ง ไม่อยากจะเชื่อเลย มันแย่มาก ทั้งแสบร้อนและคัน รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก”

ในเวลานั้นครอบครัวของเธอโทรไปที่สายด่วนฉุกเฉินทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้ทาครีมนวดผมบนหนังศีรษะของเธอ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของตุ่มพอง จากนั้นจึงให้สเตียรอยด์และยาแก้แพ้ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเธอยังคงบวม ไม่สามารถลืมตาได้ และดวงตาเกือบบอด โดยเธอบอกว่า “ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ปวดหัวแทบแตก”

กระทั่งสองวันต่อมา อาการบวมถึงเริ่มลดลง ส่วนการมองเห็นของเธอนั้นเริ่มกลับคืนสู่สภาพปกติภายในระยะเวลาหนึ่ง “ตาซ้ายของฉันเต็มไปด้วยหมอกควันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าฉันกำลังมองวัตถุใต้น้ำ” ตอนนี้เธอเพิ่งหายจากอาการแสนทรมานเหล่านั้น ซึ่งทิ้งร่องรอยมำให้ผิวของเธอหย่อนคล้อยกว่าเดิม และเธอถึงกับประกาศว่าจะไม่มีวันสัมผัสสีย้อมอีกต่อไป