หญิงแขนขาพิการหายตัวลึกลับ ตามหาตัวข้ามคืน เจอแต่รองเท้าแดงที่ใช้ตบหน้าสามี

Home » หญิงแขนขาพิการหายตัวลึกลับ ตามหาตัวข้ามคืน เจอแต่รองเท้าแดงที่ใช้ตบหน้าสามี

หญิงแขนขาพิการหายตัวลึกลับ ตามหาตัวข้ามคืน เจอแต่รองเท้าแดงที่ใช้ตบหน้าสามี ทางด้านสามียอมรับทะเลาะกัน แต่ไม่คิดว่าภรรยาจะฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 19.00 น. (29 ก.ย.64) ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.หล่มสัก ได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหาย 1 ราย เป็นหญิง คาดว่าอาจพลัดตกสระน้ำขนาดใหญ่ จึงประสานขอกำลังสนับสนุน จาก มูลนิธิร่วมกตัญญู จุดหล่มสัก พร้อมด้วย มูลนิธิร่วมกตัญญู จุดหนองไผ่ และชุดประดาน้ำ นทีเพชรบูรณ์ นำอุปกรณ์ และชุดไฟส่องสว่าง เข้าสนับสนุนการค้นหา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่าทำเป็น โคก หนองนา โดยขุดเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ความลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย ที่พบเห็นผู้สูญหายเดินผ่าน ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.เศษ

ซึ่งทางญาติ ต่างยังคงคาใจในสาเหตุ เพราะพบเพียงรองเท้าสีแดง 1 คู่ ของผู้สูญหาย ที่ถอดทิ้งเอาไว้ตรงบันไดทางเข้าศาลาริมน้ำเท่านั้น โดยนางรัตณ์สุดา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ให้ข้อมูลว่า ผู้สูญหายไปนั้นเป็นแม่ ชื่อ นางลำดวน อายุ 58 ปี ลักษณะร่างกายผอม ขาดามเหล็ก แขนพิการ งอไม่ได้ ได้แยกย้ายไปมีสามีใหม่ ก่อนเกิดเหตุ ทราบว่า แม่ออกไปช่วยงานสามีใหม่ ปั้นคันดินกั้นน้ำ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำจนถึงช่วงเวลาราว 20.00 น.ก่อนหายตัวไปไร้ร่องรอย จนช่วงบ่ายวันนี้ ป้าเจ้าของที่ ได้โทรมาบอกว่าแม่หายตัวไปจึงรีบออกตามหากัน

ซึ่งขณะนั้น สามีใหม่ของแม่ก็มาตามหาที่บ้านเหมือนกัน พอไม่เห็นก็กลับไป ไม่ยอมบอกอะไร จนมาทราบภายหลังว่า มีการทะเลาะกัน โดยสามีใหม่อ้างว่าทะเลาะกันเสร็จ ผู้สูญหายก็ออกเดินไปตามขอบสระท่ามกลางความมืด และก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียก ตาพัด แล้วก็เงียบไป พอสามีใหม่เดินตามไปหาก็ไม่เจอแล้ว โดยสามีอ้างว่า ส่วนใหญ่ที่ทะเลาะกัน ภรรยามักจะหลบไปซ่อนตัว บางครั้งนาน 1-2 วัน ถึงจะกลับเข้าบ้าน ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านก็ได้ช่วยกันงัดไม้กระดานศาลาริมน้ำ ประมาณ 4-5 แผ่น เพื่อเปิดช่องสำรวจด้านล่าง แต่เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

ขณะที่ทีมชุดประดาน้ำนทีเพชรบูรณ์ ก็มีการวางแผน ค้นหาใต้น้ำอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววข่าวดีว่าจะเจอผู้สูญหาย ส่วนชาวบ้านบางส่วน ก็ได้มีการออกเดินค้นหาบนบกช่วยอีกทางหนึ่งด้วย ทางด้าน นางรัตณ์สุดา อายุ 25 ปี ลูกสาว และ นายคำพัฒน์ อายุ 55 ปี สามีใหม่ ได้ทำการจุดธูปบอกกล่าววิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เจอตัวของผู้สูญหายแบบยังมีชีวิตด้วย  

จากการสอบถาม นางรัตณ์สุดา อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้สูญหาย เผยว่า ปกติแล้วแม่จะอาศัยอยู่กับสามีใหม่ อยู่บ้านดงน้อย หมู่ 8 ส่วนตนเองแยกออกมาอาศัยอยู่บ้านแฟน ที่หมู่ 1 บ้านห้วยสวิงน้อย โดยวันนี้ช่วงบ่ายโมง ป้าได้โทรไปบอกว่าแม่หายไป ตนเองก็ออกตามหา ทั้งที่บ้าน บ้านญาติ หรือสถานที่แม่ชอบไป แต่ก็ไม่มี

ด้าน นายสายัณห์ อายุ 65 ปี เล่าว่า ปกติแล้ว สระน้ำลูกนี้ ไม่ค่อยมีใครเข้ามา จะมีแต่เด็กว่ายน้ำเล่น ครั้งละ 3-4 คน ซึ่งเป็นลูกหลานเท่านั้น ส่วนคนนอกไม่ให้ใครเข้ามา เนื่องจากตนเองขุดสระไว้ ทำโคก หนอง นา สำหรับปลูกต้นไม้เลี้ยงปลา ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ตนทราบมาว่า สามีของผู้สูญหาย ได้มาทำแนวคันกั้นน้ำอยู่แถวนี้ แล้วภรรยาตามมาด้วย ซึ่งตอนประมาณ 2 ทุ่ม ตนเองก็ยังเดินมาดูเขาทำงานกัน ก็ยังเห็นผู้สูญหายอยู่เลย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน

ขณะที่ นายคำพัฒน์ อายุ 55 ปี สามีใหม่ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนกับภรรยาก็ยังอยู่ด้วยกัน ซึ่งเราทั้งสองนั้นได้ทำอาชีพรับจ้าง โดยตอนที่มาทำงานที่นี่มาด้วยกัน ซึ่งเห็นว่าภรรยานั้นเดินรอบๆ สระแถวนี้ อยู่ดีๆ เมื่องานเสร็จภรรยากลับบอกให้ตนนั้นกลับบ้าน ตนจึงบอกว่า รอสักครู่ก่อนให้งานเสร็จแล้วค่อยกลับ อยู่ดีภรรยาก็เกิดอาการโมโหและทำร้ายตนใช้รองเท้าปาใส่ แล้วก็เดินหนีไป ซึ่งนิสัยใจคอปกติแล้ว ภรรยาจะเป็นคนขี้งอน ชอบเดินหนีซึ่งก็ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าภรรยาจะฆ่าตัวตาย เพราะปกติทะเลาะกันจะเดินหนีกลับไปบ้าน ไกลแค่ไหนก็จะกลับ ถ้าไม่กลับบ้านก็หนีไปนอนบ้านลูก โดยตอนนี้ตนนั้นได้เดินตามหา 3 รอบ แล้วก็ยังไม่พบ ซึ่งได้ไปหาจุดที่ภรรยาชอบหลบเวลาทะเลาะกัน ตามป่ากล้วย ป่าข้างทาง แล้วรองเท้าคู่แดงที่เห็นนี้เป็นรองเท้าของภรรยา เพราะว่าตนเป็นคนซื้อให้

และเมื่อคืนภรรยาเกิดการโมโหที่ตนไม่ยอมกลับบ้าน จึงได้หยิบรองเท้าคู่นี้ตบมาที่หน้า โดยหาไม่เจอ จึงได้จุดธูปบอกขอขมากับภรรยาว่า ถ้าตายขอให้มาเป็นศพ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ขอให้มาเป็นคนให้เห็น ซึ่งภรรยาเป็นผู้พิการทางแขนและทางขา ตนนั้นไม่ให้ภรรยามาทำงาน คอยให้อยู่บ้าน หุงข้าวทำกับข้าว โดยอยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว ทะเลาะกันบ้าง แต่ตนนั้นไม่ตอบโต้แต่อย่างใด ก่อนที่จะมาทำงานวันนี้ภรรยามีดื่มสุรามาบ้าง แต่คิดว่าไม่ใช่สาเหตุที่เมาแล้วหายไปแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ