หญิงออสซี่ปัดข้อหานำเข้า – วันที่ 2 ธ.ค. ดิ แอดโวแคต รายงานการพิจารณาคดีของหญิงออสเตรเลียชื่อ ลิลี ซารา ฟอสเตอร์ ซึ่งรับพัสดุที่มีชุดชั้นใน กระเป๋าถือ และเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ที่ส่งมาจากประเทศไทย โดยเจ้าตัวคิดว่า “มันเป็นเกม”

การพิจารณาคดีของน.ส.ฟอสเตอร์กลับมาอีกครั้งเป็นวันที่สาม ที่ศาลสูงสุดเบอร์นี ของรัฐแทสมาเนีย เกาะนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของประเทศ หลังน.ส.ฟอสเตอร์ไม่สารภาพความผิดต่อข้อหาพยายามนำเข้าสารเสพติดควบคุมชายแดนในปริมาณที่สามารถวางตลาดได้

คดีดังกล่าว ศาลพิจารณาก่อนหน้านี้ว่า น.ส.ฟอสเตอร์ และนายเจสัน ปีเตอร์ เอิร์ล ชายวัย 49 ปี ถูกกล้องจับภาพได้ขณะรับพัสดุที่เต็มไปด้วยชุดชั้นและยาปลอม ระหว่างปฏิบัติการของตำรวจเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2562

เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. นายเอิร์ลให้หลักฐานโดยให้การต่อศาลว่า ตนไม่สามารถจำอะไรได้จากวันนั้น ยกเว้นว่า ตนอยู่ที่บ้านของพ่อบังเกิดเกล้า ในย่านค้าปลีกหลัก (เมนสตรีต) เมืองอัลเวอร์สโตน

“ทุกอย่างลางเลือนไปหมด ผมเมามากๆ ผมแค่จำได้ว่าลงจากเรือข้ามฟากสปีริตออฟแทสมาเนีย ซึ่งกลับมาย่านเมนสตรีต ได้รับพัสดุ และถูกจับกุม ผมเมาสุดๆ บนเรือข้ามฟาก และติดยามาหลายวันแล้ว” นายเอิร์ลกล่าว

นายเอิร์ลกล่าวว่า ไม่สามารถจำได้อีกแล้วว่าใครบ้างอาจอยู่ในบ้านวันนั้น และจำไม่ได้ว่าอะไรเกิดขึ้นขณะรับพัสดุและถูกจับกุม

เมื่อถูกซักถึงข้อความเกี่ยวกับยาเสพติดในโทรศัพท์มือถือทั้งของนายเอิร์ล และน.ส.ฟอสเตอร์ ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างคนสองคนชื่อ “บิ๊ก ชีส” และ “ลิล ชีส” นายเอิร์ลปฏิเสธว่าไม่รู้อะไรเลย

“ผมอยู่ในเมืองเมลเบิร์นกับเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง ผมคบหาสมาคมกับคนค้ายาจำนวนมาก หลายคนใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้น” นายเอิร์ลกล่าว

อัยการสูงสุดแจ้งต่อนายเอิร์ลว่า ก่อนหน้านี้ นายเอิร์ลสารภาพความผิดในข้อหาเดียวกัน คือนำเข้ายาเสพติด และยอมรับในเวลานั้นว่า คนชื่อ “บิ๊ก ชีส” และ “ลิล ชีส” ที่แทคือนายเอิร์ลเองและน.ส.ฟอสเตอร์ แต่นายเอิร์ลยืนกรานว่า น.ส.ฟอสเตอร์ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจอะไรเลย

ในการมีการเปิดวิดีโอหลายชิ้นที่สอบปากคำน.ส.ฟอสเตอร์ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. 2562 ในเวลานั้น น.ส.ฟอสเตอร์หายใจอย่างรุนแรง เหงื่อตก ร้องไห้ และถามซ้ำๆ ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น

“ฉันต้องโง่น่าดูเพราะฉันคิดว่า ทั้งหมดนี้คือเกม ฉันแค่เป็นคนโง่ๆ ที่กำลังเล่นตาม ฉันคิดว่ามันเป็นการพูดคุยที่…(คำสบถ) ฉันคิดว่าเขากำลังเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง เขากำลังเดินเหมือนนักเลง แค่พยายามเข้าไปในกางเกงในของฉันหรืออย่างอื่น ฉันเคยมีคนพูดเรื่องแปลกๆ ด้วย”

น.ส.ฟอสเตอร์บอกกับตำรวจระหว่างการสอบปากคำว่า ตนไม่มีเพื่อนมากมาย และคิดว่าเขาเป็นหนุ่มเท่ที่พยายามจะสร้างความประทับใจแก่เธอ

“ฉันเริ่มเกลียดเขา เพราะเขาทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไร เขารู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ฉันไม่ควรเซ็นเพื่อรับพัสดุนั้นเลย” น.ส.ฟอสเตอร์กล่าว

ทั้งนี้ การไต่สวนจะดำเนินต่อไปวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. เวลาท้องถิ่น 10.00 น.