'หญิงหน่อย' ประกาศสร้าง เครือข่ายบำนาญ ย้ำปล่อยให้มีคนแก่เจ็บไม่ได้

Home » 'หญิงหน่อย' ประกาศสร้าง เครือข่ายบำนาญ ย้ำปล่อยให้มีคนแก่เจ็บไม่ได้


'หญิงหน่อย' ประกาศสร้าง เครือข่ายบำนาญ ย้ำปล่อยให้มีคนแก่เจ็บไม่ได้

หญิงหน่อยประกาศสร้าง เครือข่ายบำนาญประชาชน ย้ำไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มขั้น ปล่อยให้ประเทศมีแต่คนแก่ที่ยากจนและเจ็บป่วยต่อไปไม่ได้

วันที่ 8 พ.ย.2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนางสุภาพร สลับศรี นายสรวิศ เดชเสน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดยโสธร พบปะพี่น้องประชาชนและร่วมประชุม เครือข่ายบำนาญประชาชน จังหวัดยโสธร ในสองอำเภอ ประกอบด้วยอ.ทรายมูล และอ.เมือง ซึ่งมีพี่น้องประชาชนที่สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชนร่วมการประชุมอย่างล้นหลาม

ทั้งนี้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก เวทีละกว่า 3,000 คนรวมกว่า 6,000 คน ซึ่งพี่น้องกลุ่มนี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันผลักดันพ.ร.บ.บำนาญประชาชน ที่พรรคไทยสร้างไทยได้ส่งร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า ประเทศไทย เป็นประเทศแรกของโลก ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบเต็มขั้นแล้ว และผู้สูงวัยมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน เมื่อรายได้ไม่ดี สุขภาพก็ไม่ดีด้วย

ดังนั้นเราจะปล่อยให้ประเทศไทย มีแต่คนแก่ที่ยากจนต่อไปไม่ได้ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของรัฐ และครอบครัวจำนวนมหาศาล รวมถึงไม่มีคนทำงานสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

พรรคไทยสร้างไทยจึงจำเป็นต้องดูแลผู้สูงวัย ด้วยการสร้างนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งนโยบายดังกล่าว จะสร้างประโยชน์ถึงสี่ด้าน 1.ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพสามารถดำรงชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรี 2.เป็นการลดภาระคนหนุ่มคนสาวที่ต้องทำงานเลี้ยงดูพ่อแม่ ให้คนวัยทำงานสามารถตั้งตัวได้

3.ผู้สูงอายุ ต้องไปเข้าโปรแกรมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงที่ศูนย์สุขภาพที่รัฐจัดหาให้ใกล้บ้าน โดยตั้งเป้าลด 3 โรคสำคัญ ประกอบไปด้วยโรคความดันสูง โรคไขมันอุดตัน และโรคเบาหวาน และ4.นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท จะเป็นกำลังซื้อมหาศาลที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และหมุนเวียนในชุมชน จากการที่ผู้สูงวัยนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งผลทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้นด้วย

สำหรับโครงการดังกล่าวจะมี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยจะยกระดับ อสม.ให้ความรู้ด้านวิชาชีพ เพิ่มค่าตอบแทนเป็นเดือนละสองพันบาท เพื่อมาช่วยกันขับเคลื่อนโครงการดูแลผู้สูงอายุ ดูแลผู้ป่วยในชุมชน และช่วยกันสร้างสุขภาพให้กับผู้สูงอายุให้มีสุขภาพแข็งแรงกลับมาทำงานเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ