หญิงวัย 65 เล่านาทีเฉียดตาย อาคารถล่มลงมาใส่บ้าน ลูกชายเดือด ผู้รับเหมายังขำคิกคัก

Home » หญิงวัย 65 เล่านาทีเฉียดตาย อาคารถล่มลงมาใส่บ้าน ลูกชายเดือด ผู้รับเหมายังขำคิกคัก
หญิงวัย 65 เล่านาทีเฉียดตาย อาคารถล่มลงมาใส่บ้าน ลูกชายเดือด ผู้รับเหมายังขำคิกคัก

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศ คนงานบริษัทรื้อถอนเข้าเก็บขวด และเศษปูนจากอาคารที่ถล่มลงมาระหว่างรื้อถอน จนกระจัดกระจายเกลื่อนทางเท้าและผิวการจราจรบริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 93 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร หลังเกิดเหตุอาคารพาณิชย์ 7 คูหา ถล่มจากการรื้อถอนของผู้รับเหมา เคราะห์ดีไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่บางส่วนของอาคารพาดถล่มใส่อาคารพาณิชย์ของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย

นาง วิไลลักษณ์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้านซักรีด ที่อยู่ติดกับอาคารที่ถล่ม ได้พาทีมข่าวขึ้นไปสำรวจความเสียหายบริเวณชั้น 2 ของร้าน พบว่ากำแพงของอาคารที่ถล่มพาดทับลงมาทำหลังคาพังเป็นรูขนาดใหญ่ และมีเศษหินเศษปูน เศษไม้และสังกะสีจำนวนมากหล่นใส่ร้าน ทำให้เสื้อผ้าลูกค้าและทรัพย์สินทั้งหมดเสียหาย ส่วนชั้นล่างที่เป็นห้องครัว ก็มีเศษปูนจำนวนมาก ไม่สามารถใช้งานได้

ซึ่งนางวิไลลักษณ์เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ 1 คูหา มานาน 40 ปี ก่อนหน้านี้ผู้รับเหมาก็ทยอยรื้อถอนอาคารบางส่วนมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นอีกฝั่งที่ไม่ได้อยู่ติดกับบ้านตนเอง ซึ่งผู้รับเหมาก็ไม่ได้มีการมาแจ้งอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00 ผู้รับเหมาได้แจ้งว่าจะมีการรื้อถอนอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว เพื่อเวรคืนที่ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 1 ก่อสร้างทางยกระดับและถนนฝั่งธนบุรี ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเสียงรบกวนมาถึงอาคารรอบข้าง ตนเองจึงไม่ได้มีการท้วงติงและรับทราบโดยคิดว่าจะมีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายเนื่องจากบ้านตนเองนั้นอยู่ อยู่ติดกับอาคารที่รื้อถอนห่างกันเพียงแค่หนึ่งคืบ

แต่สุดท้ายตนเองก็ไม่เห็นมีการนำอะไรมากั้น และระหว่างที่ตากผ้าอยู่บริเวณชั้นหนึ่ง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น ตนเองรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงตึกถล่มอย่างแน่นอน เเต่ไม่คิดว่าจะส่งผลทำให้บ้านตัวเองเสียหายอย่างหนัก เคราะห์ดีที่ภายในบ้านมีเพียงตนเองเเละสามีอยู่ ส่วนลูกออกไปทำงาน จึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมา ก่อนจะเห็นกลุ่มควันฟุ้งตลบอบอวล

เบื้องต้นตนเองได้พูดคุยกับผู้รับเหมา เนื่องบ้านพังเสียหาย ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ประกอบกับหวาดกลัวว่าอาคารจะถล่มลงมาซ้ำอีก ผู้รับเหมาจึงจะให้ตนเองย้ายออกไปพักที่อื่นชั่วคราว ส่วนค่าเสียหายต่างๆ ทางบริษัทผู้รับเหมาจะรับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียด

ขณะที่ลูกชายของนางวิไลลักษณ์ กำลังปลอบใจมารดาอายุ 65 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์อาคารถล่ม จนเกิดอาการหวาดผวาและตกใจกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกชายบอกว่า เห็นผู้รับเหมา ประมาณ 2-3 คน ได้เดินมาใกล้ ๆ และกำลังนำสแลนมาขึงไว้ ก็ยังคงหัวเราะคิกคัก ไม่ได้รู้สึกสลดใจหรือรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งตนรับไม่ได้มากๆ เพราะมันคือความปลอดภัยในชีวิตของแม่ตน แต่ผู้รับเหมา กลับมีท่าทีแบบนี้

ด้านนางนงลักษณ์ อายุ 34 ปี พนักงานร้านไส้กรอกไก่ที่อยู่คูหาถัดไป เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมานั้นมีการรื้อถอนอาคารพาณิชย์ดังกล่าวมานานแล้ว ได้ยินเสียงจากการรื้อถอนทั้งวัน ซึ่งไม่ทราบว่าใช้เครื่องจักรหรือใช้คนในการทุบรื้อถอน และรื้อถอนอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่ไม่เคยมาแจ้งให้ตนเองทราบเลยว่ามีการรื้อถอนตึกดังกล่าวอยู่ จนกระทั่งเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงดังสนั่น ก็รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดก่อน ทิ้งทรัะย์สินทั้งหมดออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เพราะกลัวมาก เกรงว่าทั้งอาคารที่รื้อถอนและอาคารที่ตนเองอยู่จะหล่มลงมา เพราะเป็นอาคารเก่า ก่อสร้างมานานแล้ว ถ้าหากอาคารที่อยู่ถล่มลงมา ตนเองอาจติดอยู่ภายในร้าน

ด้านห้วหน้าคนงานบริษัทรับเหมา ยอมรับว่า ขณะที่มีการรื้อถอน คนงานรื้อถอนได้ใช้รถแบ็คโฮเจาะไปที่อาคารเพื่อรื้อถอนอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ฝั่งซ้ายสุด และพยายามดึงให้อาคารเทตัวไปทางขวา ซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง แต่ระหว่างที่ขาแบคโอกำลังดัง เกิดแรงกระชากระหว่างตึก ทำให้อาคารเอียงและยุบตัวไปทางฝั่งซ้ายแทน จนถล่มใส่อาคารประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้รื้อถอนอาคารพาณิชย์ใกล้เคียงไปแล้วทั้งหมด 14 คูหา โดยมีวิศวกรในการควบคุม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีอันตราย แต่ซึ่งอาคารที่ถล่ม เป็นตึกที่เก่ามากแล้ว ทำให้เกิดการเอียงและทรุดตัวลงมาเลย ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ