หญิงออสเตรเลียวัย 48 ปี รอดชีวิต หลังจากติดอยู่ในป่าละเมาะนานถึง 5 วัน ด้วยการกินขนมหวานและดื่มไวน์เพียงขวดเดียว
บีบีซี รายงานว่า นางลิเลียน อิปวัย 48 ปี ออกเดินทางท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ไปยังเขื่อนดาร์ทเมาท์ โดยเดินทางผ่านป่าละเมาะหนาทึบในรัฐวิกตอเรีย แต่เธอได้เลี้ยวรถผิดทาง ซึ่งทำให้เธอพบกับทางตัน ส่วนรถของเธอก็ติดอยู่ในโคลน
ตามรายงานของตำรวจเผยว่า มีผู้พบตัวนางอิปครั้งสุดท้ายในที่พักของเธอที่เมืองไบรท์ ขณะที่เธอกำลังแชตผ่านวิดีโอกับเพื่อนของเธอ เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือในเมืองโวดองกา สามารถจับสัญญาณโทรศัพท์ของเธอได้ในบ่ายวันอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไป 5 วัน เจ้าหน้าที่หน่วยบริการฉุกเฉินก็พบเธอเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ในพื้นที่ใกล้กับเมืองไบรท์ ขณะที่พวกเขาบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหา
นางอิปเล่าว่า สิ่งแรกที่เธอนึกถึงเมื่อเจอกับเจ้าหน้าที่ คือ น้ำ กับบุหรี่ และโชคที่ตำรวจหญิงที่พบเธอมีบุหรี่ เธอบอกว่า “ฉันคิดว่าฉันกำลังจะตายที่นั่น ร่างกายของฉันเริ่มอ่อนแรงในวันศุกร์” พร้อมเสริมว่าเธอ “กำลังจะยอมแพ้” โดยในขณะที่เธอสูญเสียความหวังที่จะถูกพบในขณะที่ยังมีชีวิต เธอได้เขียนจดหมายถึงครอบครัวโดยบอกว่า “เธอรักพวกเขา”
ทางด้านตำรวจรัฐวิกตอเรีย ระบุว่า นางอิปถูกพบห่างจากเมืองที่ใกล้ที่สุดประมาณ 60 กม. ในสภาพที่ไม่มีน้ำ อาหาร และสัญญาณโทรศัพท์ และเนื่องจากปัญหาสุขภาพ เธอจึงไม่สามารถเดินไปไหนได้ไกล ดังนั้นเธอจึงต้องอยู่กับรถของเธอ เธอมีขนมและขนมหวานกินเพียงเล็กน้อยและไม่มีน้ำเปล่าในรถเลย โดยของเหลวชนิดเดียวที่ลิเลียนมีติดตัวคือขวดไวน์ที่เธอซื้อเป็นของขวัญให้แม่ของเธอ นั่นทำให้เธอรอดชีวิตมาได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่า “เธอใช้สามัญสำนึกที่ดี ด้วยการอยู่เฉยๆ กับรถและไม่เดินเตร็ดเตร่เข้าไปในป่า ซึ่งช่วยให้ตำรวจสามารถตามหาเธอเจอ” จากนั้นนางอิปถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาภาวะขาดน้ำ แต่หลังจากนั้นก็กลับบ้านที่นครเมลเบิร์น