หญิงทวงค่าเช่านากับอดีตสามี ทะเลาะกันแย่งปืนไปมา ลั่นใส่หลานชายดับคาที่ รีบเผาศพหนีความผิด สารภาพซื้อปืนมา 500 บาท ไว้ป้องกันตัว

วันที่ 9 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ. วิจิตร หาญชุยชาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี รับแจ้งพบศพถูกเผาที่กระท่อมนา ท้ายหมู่บ้านวังงามพัฒนา ม.8 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรบดินทร์ วงค์รินทอง สว.สส., แพทย์เวร รพ.ไชยวาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริหารหนองหาน

ที่เกิดเหตุพบศพนายภูเยี่ยม อายุ 45ปี ถูกไฟเผาไหม้เกือบทั้งตัวเหลือช่วงขา อยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวหน้ากระท่อมนา จากการตรวจสอบพบเสื่อ เสื้อผ้าและสายเบลท์รัดของ คาดว่าใช้ห่อรัดศพก่อนที่จะนำมาเผา พบมีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าใบหน้า ใกล้ศพพบรองเท้าบูท 1 คู่ ตรวจค้นในกระท่อมพบมีดยาว 2 เล่ม ปืน 1 กระบอก

เบื้องต้นจะได้ส่งศพไปผ่าตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด โดยมี นายสองเมือง อายุ 52 ปี และนางสาวปรียา อายุ 56 ปี ป้าและลุงผู้ตายอยู่ในที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้นำตัวทั้ง 2 มาสอบปากคำที่ สภ.ไชยวาน

นายสะไกร ฤทธิจรจาก กำนัน ต.คำเลาะหมู่ที่ 8 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุไฟไหม้ที่กระท่อมนา จึงออกมาตรวจสอบพร้อมชาวบ้าน เมื่อมาถึงพบว่ามีกองไฟลุกไหม้อยู่หน้ากระท่อมนา พบร่างของคนจึงใช้น้ำดับ แล้วแจ้งตำรวจ ที่เกิดเหตุเป็นไร่ที่นาของผู้ตายอาศัยอยู่กับแม่และป้าในหมู่บ้าน และที่นาใกล้ ๆ กัน ซึ่งเป็นของป้าผู้ตาย มีนายสองเมือง อดีตลุงเขย มาอยู่อาศัย สำหรับผู้ตาย เป็นคนขยันหาอยู่หากิน เป็นคนนิสัยดี จะพักอาศัยในหมู่บ้าน และจะออกมาทำไร่ทำนา

จากการสอบปากคำ นายสองเมือง และนางสาวปรียา เบื้องต้นทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ และหลังจากที่ตำรวจได้เค้นสอบอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จนนางสาวปรียา ยอมรับสารภาพว่า ตนกับอดีตสามีทะเลาะกันเอาปืนขึ้นมาขู่แล้วแย่งปืนกัน ปืนจึงลั่นถูกนายภูเยี่ยม ผู้เป็นหลาน จนเสียชีวิต จึงเผาหนีความผิด

นางสาวปรียา ให้การต่อว่า ตนกับนายสองเมือง เป็นสามีภรรยากัน และได้เลิกกันได้ 1 ปีแล้ว แต่อดีตสามียังเช่าที่นาของตนปลูกข้าว โดยช่วงเกิดเหตุนั้นตนได้มาทวงข้าว ซึ่งเป็นค่าเช่านาที่กระท่อมของหลานชาย จากนั้นมีปากเสียงถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย ตนจึงชักปืนขึ้นมาขู่ แล้ว นายสองเมือง เข้าแย่งปืน เกิดลั่นถูกนายภูเยี่ยม ล้มลง ส่วนนายสองเมืองวิ่งหนี ตนกลัวความผิดจึงนำเสื่อ เสื้อผ้ามาหอศพหลานแล้วจุดไฟเผา จากนั้นนำปืนไปขุดหลุมฝังไว้ด้านหลังกระท่อม แล้วได้แจ้งกำนันว่าไฟไหม้

ส่วนปืนกระบอกนี้ซื้อมาในราคา 500 บาท ซื้อมานานแล้วเพื่อป้องกันตัว เพราะ นายสองเมือง ชอบทำร้ายร่างกายตน จนต้องได้เลิกกันได้ 1 ปี แต่ก็ยังให้เช่าที่นาทำกิน แล้วตนก็จะมาแบ่งเอาข้าวเพื่อเป็นค่าเช่านา แต่นายสองเมืองไม่ยอมให้จึงทะเลาะและตนถูกทำร้ายร่างกายจึงได้เกิดเหตุการณ์ปืนลั่นขึ้นดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสาวปรียา ยังให้การภาคเสธ เนื่องจากอ้างว่ามีการแย่งปืนกันแล้วปืนลั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย และเผาอำพรางศพ พร้อม ตรวจคาดเขม่าปืน เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขึ้นของกฎหมายต่อไป

จากนั้นตำรวจจึงนำตัวนางสาวปรียา ไปค้นหาปืนของกลาง ซึ่งได้นำปืนไปฝังไว้หลังกระท่อมนา ส่วนกระสุนโยนทิ้งในป่ายาง พบว่าเป็นปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอกพร้อมลูกกระสุน 1 นัด