“อมรัตน์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่น “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เหตุเป็นการวิจารณ์การทำงานของนายกฯ ตามขอบเขตกฎหมายที่ ส.ส.ทำได้

วันนี้ (27 มี.ค.) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีวิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก

ทั้งนี้ นางอมรัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทนายความว่าได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งมีนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีมาแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำผิดจากการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา

ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่านายกรัฐมนตรีไม่เสียภาษี และรับเงินเกิน 3,000 บาท แต่ก็ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะทนายแจ้งว่าเป็นโทษปรับ และจะต่อสู้คดีในชั้นศาลจนถึงที่สุด

ถูกแจ้งดำเนินคดี 3 กรณี

นางอมรัตน์ ระบุว่า ในคดีนี้ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดี 3 กรณี คือ การโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2563 และวันที่ 12 ก.ย. อีกกรณีเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งให้ข้อสังเกตว่าโดยปกติการวิพากษ์วิจารณ์ขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่สามารถนำมาฟ้องร้องดำเนินคดีกันได้ เพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ซึ่งอยากให้ประชาชนทุกจับตาดูว่าเรื่องนี้แฟร์หรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีกลับให้ตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง

ให้การปฏิเสธ

หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก็ได้ให้การปฏิเสธ เพราะถือเป็นการกระทำตามขอบเขตกฎหมายที่ ส.ส.พึงกระทำได้ ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีตามปกติ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป เพราะเห็นว่าการทำงานตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีอะไรดี ทุกสิ่งที่ตนนำเสนอไปไม่ว่าช่องทางใดก็ทำไปด้วยความระมัดระวัง ใครจะแจ้งความก็เป็นสิทธิ์ แต่อยู่ที่พนักงานสอบสวนและอัยการจะพิจารณาตามพยานหลักฐาน

ด้าน พ.ต.ท.อธิชย์ เปิดเผยว่า กรณีนี้ นางอมรัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวน อยู่ระหว่างการสอบสวน