หลังจากที่ทัพกรีฑาไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาด 16 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองทองแดง ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นผลงานที่เกินเป้าหมาย 12 เหรียญทอง ที่สมาคมกีฬากรีฑาฯ ตั้งเอาไว้
ล่าสุด “แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า จริงๆเราเชื่อมาตลอดว่าจะได้มากกว่า 12 เหรียญทองตั้งแต่ก่อนมา เพราะเคยบอกไว้แล้วว่าปีนี้เราพร้อมยิ่งกว่า ซีเกมส์ครั้งก่อนที่เวียดนามเสียอีก เพียงแต่ไม่กล้าพูดขนาดนั้น ขนาดครั้งนี้นักกีฬาหลักอย่าง “บิว” ภูริพล บุญสอน, จอชชัว โรเบิร์ต แอตกินสัน และคีริน ตันติเวทย์ เจ็บด้วยทำให้พลาดไปหลายรายการ ไม่อย่างนั้นคงเก็บเพิ่มได้มากกว่านี้
“การที่เราต้องตั้งเป้าหมายแบบเซฟตัวเอง เพราะเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่เกี่ยวข้องเท่าที่ควร อย่างเช่น นักกีฬาบางคนลงเล่นหลายชนิดกีฬา จำเป็นต้องใช้รองเท้าต่างชนิดกันไป ยังโดนตั้งคำถามว่าทำไมต้องใช้รองเท้ามากมาย อย่างนักกีฬาพุ่งแหลนเราก็ต้องสั่งอุปกรณ์จากประเทศสวีเดน เงินสมาคมฯทั้งนั้น เบี้ยเลี้ยงโค้ชประจำปีก็ค้างจ่ายตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว เขามีแต่ให้เป้าหมายเรา แต่ไม่ยอมให้กระสุนเรา ตอนนี้สมาคมกีฬาฯเล็กๆเริ่มตาย ก็อยากให้เห็นใจตรงนี้ด้วย”
ด้าน ”แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฎฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย เผยว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ทีมโค้ชและนักกีฬาทุกคนนั้นหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งเห็นทุกๆคนมุ่งมั่นและทุ่มเทในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยแล้ว เป็นสิ่งที่ดีใจและแฟนๆกีฬาไทยก็น่าจะภาคภูมิใจในตัวของทุกๆคนมาก
“เสียดายที่ตัวหลักของเรา ไม่ว่าจะเป็น ภูริพล บุญสอน หรือ จอชชัว โรเบิร์ต แอตกินสัน นั้นไม่สมบูรณ์ เชื่อว่าถ้าทั้ง 2 คนสมบูรณ์ ทีมกรีฑาไทยน่าจะคว้าได้มากกว่า 16 เหรียญทอง ส่วนผลงานของนักกีฬาเลือดใหม่ ซึ่งคิดเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของทัพกรีฑาไทยชุดนี้ หลายๆคนก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก็เชื่อหลายๆคนจะยิ่งพัฒนาศักยภาพ และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม และสร้างความสำเร็จต่อเนื่องได้อีกครั้งในซีเกมส์ปี 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ” พล.ต.ต.ศุภวณัฎฐ์ กล่าวทิ้งท้าย