จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เม.ย. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.ภูเก็ต เกิดอุบัติเหตุภายในโรงแรม แล้วนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลถลางได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรุดไปตรวจสอบผู้เสียชีวิตคือ น.ส.กนกวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นพนักงานของโรงแรม ตำแหน่ง ผู้ช่วยกุ๊ก โดยเพื่อนร่วมงานบอกว่า เห็นผู้เสียชีวิตยืนชักอยู่แล้วล้มลงคางฟาดกับโต๊ะครัวล้มฟุบแน่นิ่งไป พยานคาดว่า เกิดจากไฟฟ้ารั่ว

ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. นพ.ตุลยวิชญ์ วรรณศรี แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้รายงานผลการชันสูตรผู้เสียชีวิต รายงานสาเหตุการเสียชีวิตว่า “หลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข็งและตีบ” พนักงานสอบสวนจึงได้โทรสอบถามแพทย์ถึงสาเหตุการณ์เสียชีวิต แพทย์แจ้งว่า บนร่างของผู้เสียชีวิต ไม่มีร่องรอยการถูกไฟฟ้าชอร์ต ไม่พบร่องรอยบาดแผลที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้

ทางด้าน พ่อของผู้เสียชีวิตติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ไม่ประสงค์รับเงินเยียวยาใด ๆ จากทางโรงแรม โดยขอรับเฉพาะเงินทำบุญจำนวน 12,100 บาท และในส่วนสวัสดิการอยู่ระหว่างการเบิกจากสำนักงานประกันสังคม

• เปิด! ผลชันสูตร ผู้ช่วยกุ๊กสาว โรงแรมภูเก็ต ดับปริศนาในห้องครัว?

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ทนงค์ แซ่จิ้ว ซึ่งเป็นทนาย ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความ โดยระบุว่า จากกรณีการตายของ น.ส.กนกวรรณ หรือน้องน้ำ ผู้ช่วยกุ๊กของโรงแรมชื่อดังในจ.ภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพื่อนรวมงานเปิดเผยว่า ถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต ล่าสุด โรงแรม พยายามปัดความรับผิดชอบ จึงสรุปเหตุการตายว่า มาจากโรคประจำตัว เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ตาย

ร่วมหัวลงแรงกับพนักงานสอบสวน ขนย้ายอุปกรณ์ที่เป็นต้นเหตุไฟฟ้าช้อต ออกพ้นจากสถานที่เกิดเหตุ ร่วมมือกันทำลายพยานหลักฐานทุกชิ้น เพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจสอบ วิธีบัดซบ จากโรงแรมนายจ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เลวทราม จับมือกอดคอกัน ทิ้งขว้างศพน้องอย่างไม่ไยดี พยายามทำลายหลักฐานทุกอย่าง เพื่อหยุดไม่ให้สาวถึงต้นเหตุการตายที่แท้จริง..?

ไม่เพียงเท่านี้ ทนายยังได้โพสต์ต่ออีกว่า “วันนี้ มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดี โรงแรมต้นเหตุที่ทำให้น้องน้ำเสียชีวิต ติดตามวัตถุพยานที่แอบเคลื่อนย้ายหลบหนี ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงแรมบอกว่าเสีย ติดตามผลการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของโรงแรม ติดตามผลการตรวจสอบมาตรฐานควาปลอดภัยของวัตถุพยานที่เป็นต้นเหตุ

แจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ดำเนินคดีกับช่างบำรุงของโรงแรมที่ร่วมกันขนย้ายวัตถุพยานหลบหนี ตามมาตรา 42 เอาไปไหน? เอาไปทำไม? ใครเป็นคนสั่ง น้องๆ ช่างที่ขนย้ายหลักฐาน ที่เป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญ ผมรู้ว่าน้องทำตามใบสั่ง น้องอาจไม่มีความผิด แต่น้องต้องบอกว่า ใครเป็นคนสั่ง แล้วสั่งให้เอาไปเก็บไว้ที่ไหน? เพราะอะไร?

หากน้องช่วยโรงแรมปิดบัง เจ้าของโรงแรมไม่มีทางติดคุกแทนน้องเด็ดขาด สุดท้ายน้องจะถูกทิ้งขว้าง ไม่ใยดี อย่างเช่น ที่น้องน้ำ พบเจอ เรื่องมันมาไกลแล้ว ไกลเกินกว่าที่โรงแรมจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือปิดบังซ่อนเร้น ความชั่วร้ายไว้ได้อีกแล้ว ถึงแม้ว่า จะมีนายตำรวจใหญ่คอยวางแผนให้คำแนะนำช่วยเหลือยังไงก็ตาม

ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าเงินตกใส่ตราแผ่นดิน มันจะทำให้เกียรติศักดิ์ศรีของตำรวจ ย่อยสลายไปได้หรือไม่.? คนตายทั้งคน พวกท่านจะไม่แยแสเลยใช่มั้ย.? เพราะเงินส่วย ท่านจะเอาศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไปทิ้งในกองอาจมเพียงเพื่อให้คนผิดไม่ต้องรับผิด ท่านปล่อยละเลย ให้คนตายต้องตายฟรี ๆ อย่างนั้นใช่มั้ย?

ท่านตีค่าชีวิตคน ไม่เท่าเทียมเงินส่วยที่ท่านได้รับ อย่างนั้นหรือ? ตายเป็นตาย งานนี้ผมสู้ขาดใจ ขอให้น้องน้ำนอนหลับสบายใจได้เลย”