ส่องแอปฯ สตรีมมิ่งดูหนัง-ซีรีส์ แอปฯ ไหนจ่ายแล้วคุ้ม

Home » ส่องแอปฯ สตรีมมิ่งดูหนัง-ซีรีส์ แอปฯ ไหนจ่ายแล้วคุ้ม
ส่องแอปฯ สตรีมมิ่งดูหนัง-ซีรีส์ แอปฯ ไหนจ่ายแล้วคุ้ม

ทุกวันนี้ เวลาที่อยากดูหนังหรือดูซีรีส์สักเรื่อง เราหาดูจากที่ไหนกัน? หากจะตอบว่าหาดูจากเว็บไซต์ใต้ดินที่นำมาลงแบบผิดลิขสิทธิ์ ก็ต้องบอกว่าเป็นช่องทางที่สุดจะล้าสมัยและหมดยุคไปแล้ว เพราะเวลานี้เราสามารถหาดูได้ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์แบบฟรี ๆ

โดยที่ไม่สนับสนุนช่องทางผิดลิขสิทธิ์ได้ตั้งมากมายหลายช่องทาง แม้ว่าอาจมีข้อจำกัดว่าภาพยนตร์หรือซีรีส์บางเรื่องไม่สามารถดูได้ฟรี มีโฆษณาเยอะแยะมากมาย หรือคุณภาพภาพก็อาจจะไม่ได้ดีมาก แต่เมื่อเทียบกับการที่ไม่ต้องจ่ายเงิน และไม่ต้องดูแบบผิดลิขสิทธิ์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องซีเรียสอะไร

ในเมื่อไม่ใช่ภาพยนตร์หรือซีรีส์ทุกเรื่องที่ดูได้ฟรี แต่ถึงต้องสมัครสมาชิกและจ่ายเงินรายเดือนดู ก็ถือว่าเป็นราคาที่พอจะจ่ายได้ จะเปิดดูกี่รอบก็ได้ ไม่มีโฆษณามาแทรกขัดอารมณ์ รวมถึงได้คุณภาพภาพที่คมชัดขึ้น ที่สำคัญก็คือดูแบบถูกลิขสิทธิ์ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธทางเลือกนี้ไม่ใช่หรือ

จะเห็นได้ว่าทางเลือกของคนดูอย่างเรา ๆ ในขณะมีมากมายเหลือ จะดูฟรี จ่ายเงิน จ่ายราคาไหน หรือแม้แต่จะเลือกดูที่แอปฯ ไหนก็ได้ เป็นผลมาจากสงครามสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ฟาดกันด้วยคอนเทนต์ที่ซื้อมาลง และการมอบความสะดวก ความคุ้มค่า ความประทับใจเพื่อดึงดูดให้คนดูเริ่มลังเลว่าจะจ่ายเงินดีไหม เพราะแบบที่ดูฟรีก็มี ที่สำคัญคือตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยดูทีวี เบื่อรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ ไม่สะดวกจะดูแบบเรียลไทม์ รวมถึงความพยายามไม่ออกจากบ้าน อยู่บ้านกันเยอะขึ้น ว่าง ๆ ก็หาอะไรดูแก้เหงากันไป

นั่นหมายความว่าหากคอหนัง คอซีรีส์อย่างเราจะเลือกดาวน์โหลดแอปฯ ดูวิดีโอออนไลน์สักแอปฯ มาติดสมาร์ทโฟน หรือมีติดบ้านไว้เพื่อเสพความบันเทิงอย่างไร้ขีดจำกัดแบบที่ยอมเสียค่าสมาชิกรายเดือน เราจะเลือกแอปฯ ไหนดีให้คุ้มค่ากับความต้องการและเงินที่จ่ายไป โดยที่สามารถดูคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งจากตะวันตก เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ละครไทย และการ์ตูน มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละแอปฯ มีดีอย่างไร ถ้ายอมจ่ายเงิน จะได้อะไรกลับมาบ้าง

Netflix

สตรีมมิ่งเจ้าเก่าในตลาดที่เราคุ้นเคยกันดี แถมยังเป็นยักษ์ใหญ่ในสนามด้วย จุดเด่นของ Netflix คือมีภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวี และสารคดีจำนวนมาก หลากหลายสัญชาติทั้งอเมริกา ยุโรป เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไทย และออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix เอง ซึ่งแน่นอนว่าไปหาดูจากที่แอปฯ อื่นไม่ได้ อัปเดตภาพยนตร์ใหม่ ซีรีส์ใหม่ทุกเดือน และบางทีก็มีซีรีส์ที่ปล่อยรวดเดียวจบเรื่อง ไม่ต้องรอนานค้างคาข้ามสัปดาห์ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งคนดูสายฝอ สายเกา สายบันเทิง และสายสาระความรู้อย่างจุใจสุด ๆ ไปเลย

สำหรับการจ่ายค่าสมาชิกของ Netflix จะเริ่มต้นที่เดือนละ 99-419 บาท ดูได้ 1-4 จอ ดังนี้

  • แพคเกจ Mobile 99 บาทต่อเดือน รับชมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 480P ใช้ได้เฉพาะบนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
  • แพคเกจ Basic 279 บาทต่อเดือน รับชมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 480P รับชมได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
  • แพคเกจ Standard 349 บาทต่อเดือน รับชมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P และรับชมได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
  • แพคเกจ Premium 419 บาทต่อเดือน รับชมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K HDR และรับชมได้พร้อมกัน 4 อุปกรณ์

Disney+ Hotstar

คู่แข่งยักษ์ใหญ่ระดับโลกของ Netflix ที่ถือเป็นแอปฯ น้องใหม่ที่สุดในตลาดเมืองไทยในเวลานี้ หลายคนรออย่างใจจดใจจ่อว่าจะปังหรือพัง เพราะชื่อแบรนด์อย่าง Disney กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนคาดหวังในเรื่องคุณภาพอย่างมาก จุดเด่นของ Disney+ Hotstar คือคอนเทนต์จาก Disney ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ การ์ตูน แอนิเมชัน รายการทีวี โดยเฉพาะสารพัดเจ้าหญิงดิสนีย์ จักรวาล Marvel และ Star Wars สารคดีจาก National Geographic และคอนเทนต์จาก 21st Century Fox ที่ Disney ก็ไปสรรหามาลง

สำหรับการจ่ายค่าสมาชิกของ Disney+ Hotstar มีให้เลือกเพียง 2 แพ็กเกจ (ดูได้ 1-2 จอ) คือ

  • รายปี 799 บาท (ประมาณเดือนละ 66 บาท)
  • รายเดือน 99 บาทต่อเดือน

Viu

แอปฯ สตรีมมิ่งเอาใจสายเกา (หลี) และสายเอเชียที่แท้ทรู จุใจทั้งซีรีส์เกาหลีและรายการวาไรตี้ ถ้าซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนไม่เข้า Netflix ส่วนใหญ่จะหาดูได้ใน Viu ไม่ต้องรออปเดตนาน อัปเร็วสุดคือ 8 ชั่วโมงหลังออกอากาศจากต้นทาง ตื่นมาดูซับไทยได้ในวันรุ่งขึ้น บางเรื่องสามารถดูชนกับทางเกาหลีได้เลย นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรเป็นพวกค่ายทีวีที่ผลิตคอนเทนต์ของไทยเอง หรือนำละครบางเรื่องก็นำมาลงให้ดูในแอปฯ หลังจากที่ละครฉายทางทีวีจบแล้ว

ความสุดอีกอย่างของ Viu คือการพากย์ สำหรับคยขี้เกียจอ่านซับ Viu มีแบบพากย์ไทยให้ดู และไม่ได้มีแค่ภาษาไทยธรรมดา แต่มีภาษาถิ่นทั้งพากย์อีสาน พากย์เหนือ เพื่อพยายามเข้าถึงกลุ่มคนดูหลากหลายภูมิภาค สามารถเปิดดูเปิดฟังล้วทำอย่างอื่นไปด้วยโดยไม่ต้องนั่งจ้องอ่านซับ มีทั้งแบบดูฟรีและแบบพรีเมียมไม่มีโฆษณาคั่น ความละเอียดภาพแบบ Full HD

สำหรับแพ็กเกจของ Viu มีดังนี้

  • ฟรี
  • รายเดือน 119 บาทต่อเดือน ดูได้ 1-4 จอ

iQIYI

แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอจากจีน แม้จะเพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ไม่นาน แต่ก็ถือว่าพัฒนาได้เร็วมาก โดยเฉพาะภาษาของซับไทยที่หลัง ๆ มาถือว่าแปลได้ดีและได้อรรถรสกว่าช่วงแรก ๆ ขึ้นมาก มีคอนเทนต์หลากหลายทั้งจีนและเกาหลี ของไทยเองก็มี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นซีรีส์จีนเสียมากกว่า และเป็นจีนแบบย้อนยุคด้วย ใครที่เป็นสายซีรีส์จีนที่แต่งองค์ทรงเครื่องหนัก ๆ เชิญที่ iQIYI นอกจากนี้ iQIYI ยังมีคอนเทนต์ประเภทการ์ตูน ภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้อีกมากมาย ซีรีส์บางเรื่องสามารถรับชมได้พร้อมกับทางต้นทางได้เช่นกัน พร้อมซับไทย

การจ่ายค่าสมาชิกของ iQIYI มีให้เลือกดังนี้

มาตรฐาน ดูได้ 1-2 จอ ภาพคมชัด 1080P ดูล่วงหน้า และดาวน์โหลดไว้ดูแบบออฟไลน์

  • รายเดือน 119 บาทต่อเดือน
  • รายปี 1,200 บาทต่อปี

พรีเมียม ดูได้ 1-4 จอ ภาพคมชัด 1080P ดูล่วงหน้า และดาวน์โหลดไว้ดูแบบออฟไลน์ได้เช่นกัน

  • รายเดือน 249 บาทต่อเดือน (ลดเหลือ 199 บาทต่อเดือน)
  • รายปี 2,500 บาทต่อปี (ลดเหลือ 2,000 บาทต่อปี)

WeTV

แฟนคลับซีรีส์และนักแสดงจากแดนมังกรไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะแอปฯ นี้รวบรวมคอนเทนต์จากจีนไว้เยอะมาก ย้อนยุค สมัยใหม่ ดราม่า โรแมนติก คอมเมดี้ สืบสวน การ์ตูน รวมถึงรายการวาไรตี้ต่าง ๆ แต่ก็มีคอนเทนต์จากหลายประเทศในเอเชียด้วยเช่นกัน ที่เคยเห็นคือเกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และของไทยเอง ทั้งซับไทย และพากย์ไทย และจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือซีรีส์วายจำนวนมาก ทั้งของไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน หาดูได้ที่ WeTV

การจ่ายค่าสมาชิกของ WeTV จะสามารถรับชมคอนเทนต์ได้มากขึ้น และรับชมได้ก่อนโดยไม่ต้องรอ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ดูได้ 1-2 จอ ได้แก่

  • รายเดือน 59 บาท (ในเดือนแรก) และ 89 บาทต่อเดือนในเดือนถัดไป
  • รายสามเดือน 159 บาท
  • รายปี 599 บาทต่อปี

True ID

แอปฯ ดูหนังดูซีรีส์จากค่ายโทรศัพท์มือถืออย่าง True ที่มีคอนเทนต์ความบันเทิงมาให้เสพครบทุกรูปแบบ มีทั้งละคร ซีรีส์ ภาพยนตร์ การ์ตูน และรายการวาไรตี้ให้รับชมกันอย่างจุใจ รวบรวมคอนเทนต์ความบันเทิงจากช่องต่าง ๆ มากมาย รับชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (แต่ก็ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์ และบางคอนเทนต์ฟรีเฉพาะลูกค้า True) เพียงแค่สมัครสมาชิกด้วยเบอร์โทรศัพท์ของค่ายใดก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ความพรีเมียม และระบบเช่าหนัง ก็เลือกที่จะจ่ายเงินเอา เริ่มต้นที่ 59 บาทต่อเดือน 119 บาทต่อเดือน และ 199 บาทต่อเดือนตามแพ็กเกจความสนใจ ดูได้ 1-2 จอ นอกจากนี้ถ้าอยากจะมีทางเลือกที่มากกว่านี้ ก็สมัครกล่องทรูไปเลยก็ได้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

AIS PLAY

อีกแอปฯ ดูหนังดูซีรีส์จากค่ายโทรศัพท์มือถือ AIS ที่มีซีรีส์และภาพยนตร์ระดับพรีเมียมทั้งของไทยและต่างประเทศมากมาย จะเลือกดูด้วยระบบออนดีมานด์ ดูได้ทุกที่ทุกเวลา และดูทีวีสดผ่านทางแอปฯ รวบรวมคอนเทนต์ความจากช่องต่าง ๆ มากมายเช่นกัน ที่พิเศษคือรายการกีฬาทั้งแบบถ่ายทอดสดและเทปบันทึกภาพ คอนเสิร์ต การ์ตูน และแชนแนลของ AIS เองก็มี สามารถใช้งานผ่านเครือข่ายมือถือเครือข่ายใดก็ได้ แต่รับชมได้ผ่านสมาร์โฟนและแท็บเล็ตเท่านั้น ค่าสมาชิกพรีเมียมอยู่ที่ 199 บาทต่อเดือน ดูได้ 1-2 จอ ถ้าอยากดูได้ 1-4 จอ ก็สมัครแบบพรีเมียมพลัส 299 บาทต่อเดือน (มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ