ส่องแฟชั่น 'ตู่' สวมแหวนนิ้วนาง ข้างละ 2 วง แถลงลั่นจะทำให้ปชช.มั่งคั่ง

Home » ส่องแฟชั่น 'ตู่' สวมแหวนนิ้วนาง ข้างละ 2 วง แถลงลั่นจะทำให้ปชช.มั่งคั่ง



ส่องแฟชั่น ‘ตู่’ สวมแหวนนิ้วนาง ข้างละ 2 วง นำทีมแถลงนโยบาย ลั่นจะทำให้ประชาชนมั่งคั่ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี หารายได้เข้าประเทศ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 เม.ย. 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเซาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ นายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรค พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ร่วมแถลงข่าว “ประชาชนจะได้อะไรจากนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ”

โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ สวมแหวนที่นิ้วนางทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 2 วง ซึ่งต่างจากช่วงเข้าในการปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลที่สวมแหวนเพียงนิ้วละวงเดียว พร้อมสวมรองเท้าลำลอง On Man Cloud สี All Black ที่เคยระบุว่าลูกสาวซื้อให้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติอยากเป็นพรรคหลักในอนาคตเพื่อทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวแถลงนโยบายหลักของพรรครวมรวมไทยสร้างชาติ ว่าจะทำงานอะไรอย่างไรบนพื้นฐานของอะไร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสิ่งที่เราทำกันมาแล้วหลายปี​ หลาย​อย่างก็สำเร็จและหลายอย่างยังไม่สำเร็จ และอยู่ระหว่างการดำเนินการมีปัญหาอุปสรรคมากมาย​พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยของเรามีคน 70 กว่าล้านคน​ มีพื้นที่กว่า 5 แสนตารางกิโลเมตร​ ไม่ใช่เล็ก​ ไม่ใช่ใหญ่ แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนมีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น​ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพรรคทำงานที่จะต้องมีระบบมีวิธีคิดให้คำนึงถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่พูดไปแล้วไม่มีวิธีทำอย่างนั้นไม่ได้ยึดระเบียบกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันรวมความไปถึง อะไรที่ต้องแก้ไข

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวต่อว่า​ ตนมีวิสัยทัศน์และเป็นวิสัยทัศน์ที่ทำมาแล้ว​คือมั่นคง​ มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน จะเห็นการวาดภาพอนาคตข้างหน้าในอีกกี่ปี เราจะมีพื้นฐานอยู่บนความมั่นคงในทุกมิติ และเรื่องความมั่งคั่งของประชาชนทุกกลุ่ม​ ทุกฝ่าย​ ทุกวิชาชีพ​ ทุกรายได้ยั่งยืน ไม่ใช่ทำปุ๊บปั๊บ​ แต่ไม่ทำโครงสร้างต่างๆ ให้ดีขึ้น​ ให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง​ ก็จะไปไม่ได้อยู่ดี​ ไม่เกิดความยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากให้นโยบายเราเป็นพรรคที่เรียกว่าเป็นพรรคหลักในอนาคต ถ้าเราสามารถที่จะเข้ามาในสภาฯ ได้มาก เราก็สามารถดำเนินการตรงนี้ได้ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม​ เพราะการเลือกตั้งเราได้รัฐบาลผสมหลายพรรค พอตั้งขึ้นมา​ แต่ละพรรคก็มีนโยบายของตัวเอง​

“เหมือนกับนักฟุตบอลต่างสโมสรมาเข้าทีมแข่งขันในทีมชาติมันก็มีปัญหาหมด เวลาการประชุมอะไรต่างๆ ก็ต้องนำคำนึงถึงนโยบายพรรคด้วย ผมขอร้องให้ทุกคนมองถึงนโยบายของรัฐบาลด้วย เพราะเป็นนโยบายถึงภาพรวม”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า​ ทุกพรรคทุกคนมุ่งหวังที่จะทำงานในหน้าที่พันธกิจ แต่ละกระทรวงของ​แต่ละพรรค​ โดยมีการบูรณาการกับหน่วยงาน เพื่อให้ปรับ ควบคู่กับยุทธศาสตร์​ และในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค​ ตนจะพูดในสิ่งที่ตนคิด​ นำข้อมูลจากหลายฝ่ายมาประมวลด้วยตนเอง ตนเป็นคนชอบเอามาคิดเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมาคิด มารังสรรค์​ มาสร้าง และให้หน่วยงานต่างๆ ไปพิจารณาว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้าง ควรจะเติมอะไรตรงไหน

“แต่ละพรรคมีนโยบาย แต่ผมจะไม่ไปแตะต้องอะไรทั้งสิ้น​ เรื่องนโยบายพรรคอื่น​ แต่คาดหวังว่า​ หากได้เป็นรัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบให้อยู่ในกรอบ เพราะฉะนั้นประเด็นที่ควรจะคิดกันต่อไปในเรื่องอภิปรายกำหนดนโยบายต่างๆ จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเป้าหมายนโยบายคืออะไร และผลที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่มีนโยบายออกไปแล้วหาเงินไม่ได้ มันทำไม่ได้หรอก แล้วใครจะได้ประโยชน์ ใครจะได้รับผลกระทบ มีผลข้างเคียงอะไรอย่างไร”

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวอีกว่า บุคคลเหล่านี้คือบุคลากรที่มีคุณภาพทั้งสิ้น​ ทั้งทำแล้ว​ ทำอยู่แล้ว​ มีโอกาสที่จะทำต่อ หลายท่านยังทำงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พรรคที่มีเฉพาะคนอายุเยอะๆ แต่มีคนทุกช่วงวัย ประเทศไทยมีหลายช่วงวัย​ เราดูแลคนทุกวัยอยู่​ เราจะต้องทำในสิ่งที่ทำได้​ ทำให้เป็น​ ทำให้ถูก​ ทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย​ ตรงกับสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้ได้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่านโยบายที่แถลงในวันนี้สามารถทำได้อย่างแน่นอน​ แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไร ให้ประเทศที่มีรายได้ สามารถดูแลคนได้ทุกกลุ่มทุกเป้าหมาย ทำให้เขามีชีวิตคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ