ตามต่อปีนี้ ส่องเลขเด็ด ธูปเสี่ยงทาย-เลขหางประทัด ในพิธีแห่ไข่เซ่นไหว้ศาลหลักเมือง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หลังให้โชคมาทุกปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ก.พ.) ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมือง (ศาลปู่ตา) เทศบาลท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้มีการจัดงานบุญประเพณีเดือนสาม แห่ไข่เซ่นไหว้ศาลปู่ตา ของพี่น้องชาวเทศบาลท่าตูม โดยมี นางชนมณี จารุธนิตกุล นายกเทศมนตรี พร้อมด้วย น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ สส.จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้เดินทางมาร่วมในงานนี้ปีนี้ด้วย พร้อมด้วย สจ.กองทัศน์ สุวรรณนพวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาล และประชาชนในเทศบาลท่าตูม
โดยหลังจากที่พิธีไหว้หัวหมูเสร็จ ได้มีการจุดธูปเสี่ยงทายขอโชคลาภ จากเจ้าพ่อวงศ์เมือง และยายกันตรัวะ ที่ศาลแห่งนี้ พร้อมกับเสี่ยงทายเลขเด็ด จากท้ายหางประทัดที่จุดขึ้นในพิธีด้วย
โดยเลขธูปเสี่ยงทายได้เป็นหมายเลข 411 ส่วนเลขจากหางประทัด ได้เป็นหมายเลข 658 และ 92 ซึ่งหลายคนก็จะนำเอาเลขมงคลเหล่านี้ ไปเสี่ยงทายซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เนื่องจากเคยได้โชคกันมาแล้วจากพิธีนี้ทุกปี
เปิดตำนาน พิธีแห่ไข่เซ่นไหว้ศาลปู่ตา ศาลปู่ตา หรือ ศาลหลักเมือง
สำหรับประเพณีนี้ ตั้งแต่โบราณได้มีการเล่าสืบทอดต่อ ๆ กันมาว่า ที่บริเวณศาลปู่ตา หรือ ศาลหลักเมือง แต่ก่อนเป็นเพียงศาลไม้เล็ก ๆ อยู่ใต้ต้นสำโรงใหญ่ เป็นทางผ่านของลูกหลานชาวท่าตูม ที่ต้อนวัวต้อนควายไปเลี้ยง และคนที่จะไปเลี้ยงวัวควายก็จะต้องห่อข้าวห่อน้ำไปเป็นอาหารกลางวันด้วย และอาหารที่ห่อมาส่วนมากจะเป็นอาหารง่าย ๆ เช่น ทอดปลาหรือว่าต้มไข่
และในระหว่างที่จะต้อนวัวต้อนควายไปเลี้ยง ก็จะต้องผ่านศาลปู่ตาแห่งนี้ โดยเมื่อผ่านบริเวณนี้ทุกคนก็จะหยิบเอาอาหารที่ห่อแบ่งเอาไปวางไว้ในศาลปู่ตา เพื่อเป็นการขอพรในการที่จะออกไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย จะได้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตราย และอาหารที่แบ่งไว้ส่วนมากก็จะเป็นไข่ต้ม จึงได้เกิดเป็นตำนานการแห่ไข่เซ่นไหว้ศาลปู่ตามาจนทุกวันนี้
ซึ่งต่อมาในสมัย นายสิรินเทพ ร่วมพัฒนา เป็นนายกเทศมนตรีคนแรกของเทศบาลท่าตูม จึงได้มีมติจัดการสร้างศาลปู่ตาหรือว่าศาลหลักเมืองแห่งนี้ขึ้น โดยยกเป็นฐานสูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร และปูด้วยหินอ่อนอย่างสวยงาม จึงเป็นที่สักการะของพี่น้องชาวอำเภอท่าตูม และประชาชนทั่วไปมาจนถึงทุกวันนี้
และต่อมาในช่วงบ่าย นางวันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอท่าตูม ก็ได้เดินทางมาร่วมชมการฟ้อนรำบวงสรวงงานปู่ตาซึ่งมีนางรำกว่า 150 คน มารำถวายอย่างสวยงาม จากนั้นก็ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์ มาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมพิธี หลังจากพระสะเดาะเคราะห์เสร็จ ก็ได้จัดให้มีการแสดงลิเก เพื่อฉลองในพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง หรือ ศาลปู่ตาอีกด้วย