หลังเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงฉีก MOU 8 พรรค และจะไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมในรัฐบาล ด้วยเหตุผลเรื่องจุดยืน การแก้ไข ม.112 โดยเพื่อไทยจะเจรจาตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคอื่น โดยพรรคก้าวไกล ซึ่งได้คะแนนเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะไปเป็นฝ่ายค้าน

ความเคลื่อนไหวในฝั่งพรรคก้าวไกล ทั้ง สส. อดีต สส. และผู้เกี่ยวข้อง ล้วนออกมาเคลื่อนไหวต่อกรณีดังกล่าว 

คนแรกคือ ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และแกนนำคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความเป็นภาพแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย พร้อมระบุข้อความสั้นๆ ว่า “อ่านและจำทุกคำ”

ส่วน เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า “ถึงชั่วโมงที่เกรงใจ สว. มากกว่าเกรงใจประชาชน” และยังทวีตข่าวจาก The Reporters ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทยยังคาดหวังว่า ก้าวไกลจะยกมือโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายก โดยระบุว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับสิ่งที่เพื่อไทยพูดในที่ประชุม เพราะความเป็นจริงแล้ว 

“ที่ถูกต้อง” คือ ในวงเจรจาแกนนำพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งพูดว่า ไม่ได้ต้องการเสียงของก้าวไกล เหตุผลเพราะถ้าก้าวไกลร่วมโหวตด้วยจะทำให้

1. สว.อาจจะไม่พอใจ
2. สว.อาจจะระแวงได้ว่าต่อไปจะเอาก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ลิงก์เพลงผ่านทวิตเตอร์ เพลง ไว้ใจ ของ หนุ่ย ไมโคร ที่ร้องว่า จุดอ่อนจากการที่ไว้ใจ คือโดนทำร้ายแทบเสียคน จุดอ่อนจากการเชื่อถือคนบางคน ผลลัพธ์คือต้องผิดหวัง จุดจบก็คือต้องเสียใจ รุนแรงเลวร้ายกว่าทุกครั้ง จุดจบมีรออยู่แล้วปลายทาง คงรู้ว่าเป็นอย่างไร

โดยวิโรจน์ ระบุแคปชันว่า “ขอมือขวากันหน่อยครับทุกคน”

อีกคนคือ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ที่เดินทางมาพร้อมเพื่อน สส. อาทิ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ , นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์  รับยื่นหนังสือจากกลุ่มคาร์ม็อบ ที่แสดงจุดยืนต้องการให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือร่วมรัฐบาล โดยได้พูดคุยทักทายกับมวลชนที่มาชุมนุม ก่อนที่ รังสิมันต์ โรม จะให้สัมภาษณ์ โดยมีตอนหนึ่ง ที่โรมพูดว่า 

“ผมเข้าใจมาโดยตลอดว่าเรา (เพื่อไทย-ก้าวไกล) แต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้ว MOU เปรียบเสมือนการจดทะเบียน แต่วันนี้ ไม่ใช่เจ้าสาวรอเก้อ แต่กำลังจะมีการหย่ากันมากกว่า วันนี้อยากขอบคุณประชาชน และตนก็ยืนยันทุกครั้งว่า การมารวมตัวกันของประชาชนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกยอมรับว่าเป็นประชาธิปไตย แต่หลักการในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเป็นเรื่องที่ถูกยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเป็นสาระสำคัญหากจะบอกว่าจะมีระบอบประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมก็มีสิทธิในการแสดงออกอยู่แล้วจึงขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และความประสงค์ของผู้ชุมนุมคือต้องการเห็น8พรรคทำงานร่วมกัน แต่วันนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของพรรคก้าวไกล

ตนขอตอบในนามความรู้สึกส่วนตัว ว่า หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็เห็นสัญญาณการปล่อยข่าวมาโดยตลอด และคงรู้อยู่แล้วว่าอาจจะมีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแบบนี้ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่ตนเจ็บปวดที่สุด คงเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่เขาฝัน มันน่าเศร้า มันอีกนิดเดียว คุณเคยรู้สึกมั้ยว่ามันอีกนิดเดียวจริงๆ”