ส่งสายลับแฝงตัว ล่า 2 หนุ่ม ดัดแปลงแบลงค์กัน-ปืนไทยประดิษฐ์ ขายออนไลน์ ฟันกำไร

Home » ส่งสายลับแฝงตัว ล่า 2 หนุ่ม ดัดแปลงแบลงค์กัน-ปืนไทยประดิษฐ์ ขายออนไลน์ ฟันกำไร


ส่งสายลับแฝงตัว ล่า 2 หนุ่ม ดัดแปลงแบลงค์กัน-ปืนไทยประดิษฐ์ ขายออนไลน์ ฟันกำไร

ส่งสายลับแฝงตัว ล่า 2 หนุ่ม เปิดอู่ซ่อมรถ แต่แอบดัดแปลงแบลงค์กัน-ปืนไทยประดิษฐ์ ขายออนไลน์ ฟันกำไร กระบอกละ 2,000-3,000 บาท

ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศลน.ตร. ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และชุดลาดตระเวนออนไลน์ลาดตระเวนตรวจสอบเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน

ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งดังกล่าว สืบนครบาลตรวจพบเพจ “ปืนเถื่อน” โดยส่งสายลับเข้าแฝงตัวไปยังกลุ่มปิด ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อกลุ่ม “คนเล่นปืน” สั่งอาวุธปืนส่ง และเครื่องกระสุนปืนทางพัสดุไปรษณีย์เป็นอันตรายต่อสังคมโดยเฉพาะในช่วงระดมก่อนการเลือกตั้งนี้

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น.

พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง, พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนะชัย ศิริ, พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.

พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายอรรถพล อายุ 32 ปีชาวจ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมายจับ ได้แก่ 1) หมายจับศาลอาญาที่ 1271/2566 ลง 22 เมษายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

2) หมายจับศาลอาญา ที่ 1273/2566 ลง 22 เมษายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนายทองคำ อายุ 29 ปี ชาวจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ส่งผ่านระบบขนส่ง (พัสดุ) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายโครงปืน จำนวน 3 ชิ้น ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายลำกล้องปืน จำนวน 2 ชิ้น อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 5 กระบอก อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ยี่ห้อ ROHM RG10 อาวุธปืนแบลงค์กันสภาพระหว่างรอการประกอบ 6 กระบอก

อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์สภาพระหว่างรอการประกอบ 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด 9 mm 28 นัด กระสุนปืน ขนาด .38 mm. 76 นัด กระสุนปืน ขนาด .380 mm 35 นัด กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 20 เกจ 17 นัด กระสุนปืนลูกซองขนาด 410 เกจ 13 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 LR 8 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 10 นัด ชิ้นส่วนซองปืน 35 ชิ้น

ชิ้นส่วนลำกล้องปืน 30 ชิ้น ด้ามจับพลาสติกปืนสีดำ 2 ชิ้น สปริงสำหรับประกอบอาวุธปืน 18 อัน ด้ามปืนไม้ 1 อัน เครื่องเจาะไฟฟ้า 1 ตัว เครื่องมือทำอาวุธปืน 1 ชุด ชุดโหลดกระสุนลูกโม่ 3 ชุด แท่นปากกาจับเหล็ก 2 อัน VERNIER CALIPER 2 อัน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ตำรวจได้ลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลได้ลาดตระเวนตรวจสอบการกระทำความผิดผ่านเฟซบุ๊ก จนพบเพจซื้อขายอาวุธปืน ชื่อเพจ “ปืนเถื่อน” และแฝงตัวเข้าไปยังกลุ่มปิด (ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์) ชื่อกลุ่ม “คนเล่นปืน” จากนั้นได้ทำการล่อซื้ออาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ส่งผ่านระบบขนส่งทางไปรษณีย์(พัสดุ) และได้พิสูจน์ทราบตัวผู้จำหน่าย และพิสูจน์ทราบแอดมินกลุ่ม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับพัสดุที่ได้จากการล่อซื้อ ตรวจสอบพบว่าภายในบรรจุ อาวุธปืนและเครืองกระสุนปืนตามที่สั่งซื้อจริง เมื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของพัสดุพบว่าผู้ส่งชื่อ อรรถพลและได้ทำการส่งตรวจพิสูจน์ของที่ได้รับ ผลการตรวจยืนยันเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ได้ทำการสืบสวนจนเชื่อได้ว่านายอรรถพลฯ เป็นผู้จัดส่งมีส่วนรู้เห็นในการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อยืนคำร้องขอออกหมายจับ

ต่อมาศาลอนุมัติหมายจับนายอรรถพล ข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1271/2566 ลง 22 เมษายน 2566 และหมายจับศาลอาญา ที่ 1273/2566 ลง 22 เม.ย.2566

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นที่พักของนายอรรถพล จำนวน 2 จุด ได้แก่ บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ลักษณะเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ตามหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 93/2566 ลง 5 พ.ค. 2566 พบเครื่องกระสุนและลำกล้องอาวุธปืน และตรวจร้านนวด หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

ตามหมายค้นของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 94/2566 ลง 5 พ.ค. 2566 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของนายอรรถพล ผลการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ทะเบียน 2ฒส 474 กรุงเพทมหานคร จอดอยู่บริเวณหลังร้านนวด

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวนนายอรรถพลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่อู่เดียวกันกับนายทองคำ มีความชำนาญด้านการซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ อยู่แล้ว จากนั้นเมื่อประมาณปลายปี 2565 ตนสั่งซื้อแบลงค์กัน มาจากร้านขายปืนทั่วไปในย่านสะพานเหล็ก จาก จ.กาญจนบุรี, ลำปาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ ซื้อมากระบอกละประมาณ 9,000 บาท

จากนั้นสั่งซื้อลำกล้องมาจากในกลุ่มไลน์ที่ตนรู้จัก และคนรู้จักส่วนตัว จากนั้นนำลำกล้องมาดัดแปลงโดยใช้อุปกรณ์เครื่องเจาะ และเครื่องวัดที่ตนมีอยู่แล้วดัดแปลงปืนพร้อมแม็กกาซีนให้สามารถยิงได้ เมื่อสามารถใช้ได้แล้วจะขายในกลุ่มไลน์ให้กับคนที่รู้จัก ในราคากระบอกละประมาณ 12,000 บาท ได้กำไรประมาณกระบอกละ 2,000-3,000 บาท

ขายที่ทำไปเองแล้วประมาณเกือบ 20 กระบอก และนอกจากนี้ ยังสั่งปืนอย่างอื่นพร้อมกระสุนจำหน่ายให้ลูกค้า เพื่อกินส่วนต่างหลายหมื่นบาท ส่วนนายทองคำให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเป็นเพียงผู้พักอาศัยอยู่ในอู่รถยนต์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกับนายอรรถพล กระสุนปืนจำนวน 2 นัด และโครงปืน จำนวน 3 ชิ้น เป็นของนายอรรถพล ฝากไว้ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า นโยบายของ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

จึงฝากเตือนไปยังประชาชนให้ช่วยตรวจสอบการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน หรือสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชน หากพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลรายละเอียดมายังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือเฟซบุ๊กเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้โดยตรง

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ