สเปนเลิกบังคับ “สวมแมสก์” ในระบบขนส่งสาธารณะ-หลังอัตราการติดเชื้อลดลง
สเปนเลิกบังคับ “สวมแมสก์” – ซินหัว รายงานว่า นางแคโรไลนา ดาเรียส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสเปน เปิดเผยว่าสเปนจะยกเลิกการบังคับสวม “หน้ากากอนามัย” เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) บนระบบขนส่งสาธารณะ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้ แต่ประชาชนยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากหากอยู่ในโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพ และร้านขายยา
นางดาเรียสกล่าวกับสื่อมวลชนว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในสเปนมีความมั่นคงมากหากพิจารณาจากมุมมองทางระบาดวิทยา การยกเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัยครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการหวนกลับสู่วิถีชีวิตปกติในสเปน
ภายหลังการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสมรณะในประเทศ และกฎการบังคับสวมหน้ากากอนามัยตามสถานที่ในร่มส่วนใหญ่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2565
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขสเปนเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าอัตราการป่วยโรคโควิด-19 ในระยะ 14 วัน ของผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีในสเปน อยู่ที่ 97.60 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งทางการยังคงรักษาแนวโน้มอัตราการป่วยที่ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปรูเตรียม “เลิกสวมแมสก์” ในที่สาธารณะ-ลุ้นฉีดวัคซีนโดส 3 ถึง 80% เร็วๆ นี้
- เกาหลีใต้เตรียม “คลายคุมเข้ม” โควิด เหลือแค่ใส่แมสก์-หลังติดเชื้อรายวันลดฮวบ
- นายกฯ อิสราเอล “ติดโควิด” หลังเพิ่งพบปะรัฐมนตรีสหรัฐ “ถอดแมสก์” หารือ