สุวิจักขณ์ ขุนทอง นักกีฬายูยิตสู หนุ่มวัย 21 ปี เจ้าของเหรียญเงินชิงแชมป์โลก ยู-21 ปี 2021 และเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย ปี 2022 รับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ นำนักกีฬาไทย เข้าสนามในพิธีเปิด

ความเคลื่อนไหวกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เวียดนาม จัดพิธีเปิดเป็นทางการ เย็นวันนี้ (12 พฤษภาคม) ที่สนามมีดิงห์ สเตเดี้ยม T-Sport 7 ช่อง 5 HD และ NBT 2 HD ถ่ายทอดสด เริ่มเวลา 19.00 น. เจ้าภาพระดมนักแสดงกว่า 1,000 คน มาสร้างความประทับใจ การแสดงสะท้อนวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง และสื่อสารถึงความเข้มแข็งของชาวอาเซียน ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แสงสีเสียง จัดเต็ม ขณะที่ “ฟร้อง” สุวิจักขณ์ ขุนทอง นักกีฬายูยิตสู รุ่น 62 กก.ชาย เหรียญเงินชิงแชมป์โลก ยู-21 และเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย รับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ นำนักกีฬาไทย เข้าสนาม

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 พร้อมเปิดฉากอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าภาพเวียดนาม กำหนดจัดพิธีเปิดการแข่งขัน ในเย็นวันที่ 12 พฤษภาคม ที่สนามมีดิงห์ สเตเดี้ยม ในกรุงฮานอย โดยมี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เป็นประธานในพิธี T-Sports 7 ช่อง 5 HD และ NBT 2 HD ถ่ายทอดสด ให้ชม เริ่มเวลา 19.00 น.

สำหรับการแสดงในพิธีเปิดครั้งนี้ เวียดนาม ระดมนักแสดงกว่า 1,000 คน มาสร้างความประทับใจ โดยการแสดงสะท้อนวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง และสื่อถึงความเข้มแข็งของชาวอาเซียน ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แสงสีเสียงจัดเต็ม โดยยึดธีมหลักของการแข่งขันว่า “เพื่ออาเซียนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

ชุดการแสดงในพิธีเปิดการแข่งขัน จะแบ่งเป็น 3 องก์หลัก องก์แรก สื่อถึงการต้อนรับอันอบอุ่นของเจ้าภาพ องก์ที่ 2 สื่อถึงความแข็งแกร่งของภูมิภาคอาเซียน และองก์สุดท้าย คือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและมิตรภาพของชาติสมาชิกในภูมิภาคอาเซียน

ส่วนชุดการแสดงย่อยจะมีทั้งหมด 5 ชุด ทั้งการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นของเวียดนาม สอดแทรกด้วยการเต้นรำโดยนักแสดงจะใส่ชุดประจำชาติ และสวมใส่หมวกงอบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนาม รวมทั้งยังจะมีการสื่อสารข้อความผ่าน ต้นไผ่ และดอกบัว ควบคู่กันไป ขณะที่ไฮไลต์สำคัญจะมีการนำเทคโนโลยีมาประกอบการแสดง โดยเฉพาะการนำคอมพิวเตอร์มาสร้างภาพเสมือนจริงในสนาม ซึ่งจะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างแน่นอน

สำหรับ ต้นไผ่ เป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวา ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความยั่งยืน และความทรหด ในขณะที่ดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ และความอดทนของชาวเวียดนาม

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าจับตามอง คือ การนำเสนอสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาทั้ง 40 ชนิดกีฬาในซีเกมส์ครั้งนี้ ผ่านกราฟิกภาพจิตรกรรมดงโห่ ซึ่งเป็นจิตรกรรมพื้นเมืองเก่าแก่ของประเทศเวียดนาม

หลังจากชุดการแสดงต่าง ๆ แล้ว ศิลปินนักร้องดังของเวียดนาม อาทิ ตัง ดวง, วาน ไม ฮวง, โฮ ง็อก ฮา, ไอแซค, เดน วอ จะร่วมขับขานบทเพลงประจำการแข่งขัน Let’s Shine ซึ่งประพันธ์โดย ฮุย ตวน นักแต่งเพลงชื่อดัง เนื้อหาสื่อถึงมนุษย์ที่เกิดมาโดยมีเป้าหมายในการฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้น การเดินทางผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท พยายาม และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง

ช่วงของการขับขานบทเพลงดังกล่าว จะมีแดนเซอร์ร่วมแสดง 110 ชีวิต พร้อมทั้งมาสคอต ซาวลา หรือวัวหวูกวาง สัตว์ท้องถิ่นของเวียดนาม และนักกีฬาอีก 250 คน ร่วมปรากฏตัวในสนาม

ส่วนทัพไทย มีนักกีฬา เจ้าหน้าที่ 31 คนร่วมเดินขบวนพาเหรด ตามที่เจ้าภาพกำหนดไว้ให้กับทุกชาติ เพื่อให้ตรงกับครั้งที่ 31 ของกีฬาซีเกมส์ มี “ฟร้อง” สุวิจักขณ์ ขุนทอง นักกีฬายูยิตสู รุ่น 62 กก.ชาย วัย 21 ปี เหรียญเงินชิงแชมป์โลก ยู-21 ปี 2021 และเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย ปี 2022 รับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ นำนักกีฬาไทย เข้าสนาม พร้อมด้วย “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬา ด้าน กว็อก ธิ ลาน นักกรีฑาทีมชาติเวียดนาม ที่คว้าเหรียญทองวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตรหญิง กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 4 ปีก่อน จะเป็นผู้จุดไฟคบเพลิงในพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้

“ฟร้อง” สุวิจักขณ์ ขุนทอง เปิดเผยว่า ตอนแรกได้รับแจ้งจากโค้ชรู้สึกตกใจว่าทำไมถึงเลือกตัวเองทำหน้าที่ พอตั้งสติได้รู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ที่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวเพราะจะเป็นเกียรติประวัติที่น่าจดจำของตัวเอง และครอบครัว แค่ได้ติดทีมชาติได้เป็นนักกีฬาตัวแทนคนไทยก็ภาคภูมิใจที่สุดแล้ว การทำหน้าที่ถือธงชาติไทยในวันพิธีเปิดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ในวันที่ 12 พฤษภาคม ยิ่งเป็นเกียรติประวัติสูงสุดของตัวเองเลย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ในวงการกีฬาที่เลือกให้ตนทำหน้าที่นี้ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น และยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง แต่จะทำให้ดีที่สุด

นักยูยิตสูทีมชาติไทย กล่าวต่อไปว่า ซีเกมส์ ครั้งนี้ลงแข่งขันในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 62 กก. ซึ่งตนเป็นเจ้าของเหรียญเงินในครั้งก่อนที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยตอนนั้นแพ้ให้กับนักกีฬาสิงคโปร์ แต่ครั้งนี้นักกีฬาสิงคโปร์คนดังกล่าวขยับรุ่นขึ้นไปแล้วเพราะทำน้ำหนักไม่ไหว ทำให้มั่นใจว่ามีโอกาสสูงที่จะคว้าเหรียญทองในรุ่นนี้มาครองได้ แต่ต้องวัดกับนักกีฬาจากฟิลิปปินส์ เจ้าของเหรียญทองรุ่น 56 กก.ในซีเกมส์ครั้งก่อนที่ขยับมาล่าเหรียญทองในรุ่น 62 กก.

“ผมติดทีมชาติมาตั้งแต่ ม.4 ตอนนั้นเรียนที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ก็เล่นมาตลอดจนตอนนี้ผมอยู่ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ผมเคยไปแข่งทั้งชิงแชมป์เอเชีย และล่าสุดได้รองแชมป์โลกมาครอง ซีเกมส์คราวนี้ผมตั้งใจมากเก็บตัวมา 7 เดือนเพื่อเหรียญทองนี้ ผมตั้งใจมาก และผมหวังว่าผมจะทำมันสำเร็จ ขอฝากแฟนๆ กีฬาส่งกำลังใจมาเชียร์ผม และทัพนักกีฬาไทยทุกคนด้วยครับ” น้องฟร้องกล่าว