สุวัฒน์ ซบ ปชป. ชิงฝั่งธนฯ แท็กทีมม่วงศิริ สู้เลือกตั้ง แจงเหตุทิ้งพปชร.

Home » สุวัฒน์ ซบ ปชป. ชิงฝั่งธนฯ แท็กทีมม่วงศิริ สู้เลือกตั้ง แจงเหตุทิ้งพปชร.


สุวัฒน์ ซบ ปชป. ชิงฝั่งธนฯ แท็กทีมม่วงศิริ สู้เลือกตั้ง แจงเหตุทิ้งพปชร.

ปชป. ต้อนรับ “สุวัฒน์ ม่วงศิริ” ชิงพื้นที่ฝั่งธนฯ ยันออกจากพปชร.ไม่มีดีล แค่ขอสู้เป็นทีมม่วงศิริ ด้าน เฉลิมชัย ตอกกลับ สกลธี ดีลที่ยิ่งใหญ่คือดีลสายเลือด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. พร้อมด้วยคนตระกูลม่วงศิริ ทั้งนายสากล ม่วงศิริ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เปิดตัว นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ซึ่งย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาลงเขต 26 เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) เขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) โดยนายสุวัฒน์ สมัครชิกพรรคแบบตลอดชีพ

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้เราได้สมาชิกของตระกูลม่วงศิริ เข้ามาร่วมลงสมัคร ส.ส. อีกครั้ง คือนายสุวัฒน์ เนื่องจากการแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำให้มีการวางตัวผู้สมัครไว้แล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องปรับ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และตนได้พูดคุยกับนายสากล นายสาธร ม่วงศิริ นายสามารถ ม่วงศิริ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นอดีตส.ส. มาทำการเมืองร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพื้นที่เขตฝั่งธนฯ เป็นอย่างมาก

“วันนี้ประชาธิปัตย์ได้เพชรมาอีกหนึ่งเม็ด คือนายสุวัฒน์ ที่จะมาต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องชาวฝั่งธนฯ ทั้งหมด จะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายสุวัฒน์ ชี้แจงถึงการย้ายมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากที่กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง ทำให้เขตเลือกตั้งที่ 26 , 27 และ 28 ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของตะกูลม่วงศิริ มีความทับซ้อนกัน ฉะนั้น เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจของประชาชน และเพื่อที่ตระกูลม่วงศิริ จะไม่ส่งผู้สมัครแข่งกันเอง จึงเห็นว่ามาอยู่ทีมเดียวกัน และพรรคเดียวกัน ก็จะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ขณะที่ นายองอาจ กล่าวว่า การที่กกต.แบ่งเขตใหม่ ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกัน จึงต้องมีการผนึกกำลัง เพื่อให้มีความเข้มแข็งมากที่สุด นำไปสู่ชัยชนะของการเลือกตั้ง และการทำงานในพื้นที่ที่มาจากตระกูลม่วงศิริ ถือว่ามีความสำคัญ ไม่ได้มีเหตุผลอื่น แต่เพื่อให้ได้รับชัยชนะ และคนเหล่านี้มีโอกาสได้เป็นส.ส. ทำประโยชน์ให้กับประชาชน และประเทศชาติต่อไป

เมื่อถามว่า มีการตั้งเป้าตัวเลข ส.ส.กทม. ในการเลือกตั้งอย่าางไร นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เราทำเต็มความสามารถทุกเขต เป้าหมายของเราคือสู้ทุกพื้นที่ พี่น้องชาวกทม.จะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้ เรามีความตั้งใจเข้ามาดูแลกทม.จริงๆ ส่วนเป้าหมายในการเลือกตั้งเรามีอยู่แล้ว แต่ขอให้เป้าหมายนี้เป็นคำตอบในวันที่ 14 พ.ค. ทั้งนี้ มั่นใจว่าชนะทุกเขต แต่จะได้กี่เขตขอถามประชาชนก่อน

เมื่อถามว่า นายสุวัฒน์ออกจากพปชร. ล่ำลากันด้วยดีหรือไม่ เพราะนายสกลธี ภัทยกุล หัวหน้าทีมกทม. พปชร. ระบุอาจจะมีดีลที่ใหญ่กว่า นายสุวัฒน์ กล่าวว่า คำว่าดีลที่ใหญ่กว่า ตนไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือสิ่งที่ได้ชี้แจงเหตุผลไปแล้ว คือเรื่องเขตเลือกตั้งมีความซับซ้อนกัน และแทนที่จะเห็นตระกูลม่วงศิริส่งผู้สมัครแข่งขันกันเอง แต่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า หากตนมาอยู่ร่วมกับทีมเดียวกัน และยังทำให้ประชาชนง่ายต่อการตัดสินใจ

นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการร่ำลานั้น หลังจากที่มีความชัดเจนแล้ว ตนก็ได้บอกกล่าวกับผู้ใหญ่ พร้อมกับขอนัดหมายเข้ากราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ตนได้ปรึกษาหารือกับผู้สมัครบางคนที่สนิท แล้วไปบอกนายสกลธีก่อน ซึ่งนายสกลธีก็โทรศัพท์มาสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อตนตัดสินใจชัดเจนแล้วก็ได้ติดต่อกลับไปแจ้งให้ทราบ

นายเฉลิมชัย กล่าวเสริมว่า “ฝากไปบอกน้องจั๊ม (นายสกลธี) เลยว่า ดีลที่ยิ่งใหญ่คือดีลสายเลือด ไม่มีอะไรใหญ่กว่านี้ ส่วนถ้าดีลอื่นๆ ประชาชนสู้ไม่ได้อยู่แล้ว”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ