โรม ลั่น 14 พ.ค. ไม่ใช่แค่เสาไฟหัก แต่ก้าวไกลจะเอาลงดิน ปักธงส้มในสุราษฎร์ธานี ยืนยัน ‘มีเราไม่มีลุง’ พูดคำไหนคำนั้น ไม่มีวันทรยศประชาชน
วันที่ 10 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา คาราวานก้าวไกลภาคใต้สายในใต้หล้า นำโดย นายรังสิมันต์ โรม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายเดชรัต สุขกำเนิด นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ นายรอมฎอน ปันจอร์ และ นายภคมน หนุนอนันต์ จัดปราศรัย ที่บริเวณสะพานนริศ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มีประชาชนมาร่วมฟังอย่างล้มหลาม หลายคนสวมเสื้อสีส้มแสดงการสนับสนุนพรรค แม้ระหว่างการปราศรัยจะมีฝนตกลงมา แต่ประชาชนจำนวนมากไม่ลุกหนีฝน ต้องการฟังปราศรัยต่อไป
นายรังสิมันต์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เคยมีคนบอกว่าการเลือกตั้งในภาคใต้ เป็นไปไม่ได้ที่พี่น้องคนใต้จะเลือกพรรคการเมืองใหม่ แต่การเลือกตั้งปี 2562 อดีตพรรคอนาคตใหม่วันนั้น มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เรามีนโยบาย แต่สิ่งที่เราไม่มี คือประสบการณ์และผลงานที่จะบอกประชาชนว่าเราทำได้จริง ถึงอย่างนั้นชาวสุราษฎร์ธานีก็มอบความไว้วางใจให้เราเกือบ 80,000 คะแนน แม้เราจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มี ส.ส.สุราษฎร์ธานี แต่เราเรียนรู้จากบทเรียนวันนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่เสาไฟฟ้าในสุราษฎร์ธานีไม่ใช่แค่หัก แต่พรรคสีส้มจะเอาลงดินและปักธงก้าวไกล
“เราไม่ต้องการสร้างเสาต้นใหม่ ไม่ต้องการล้มใครแล้วแทนที่คนนั้นเพื่อจะทำแบบเดิม แต่สิ่งที่เราพยายามทำคือ ทำการเมืองให้ดีกว่า ทำเศรษฐกิจให้ดีกว่า เพื่อไปสู่การเป็นประเทศไทยและสุราษฎร์ธานีที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเกณฑ์ทหาร การปฏิวัติการศึกษา การทำให้เศรษฐกิจปากท้องมีความเท่าเทียม สิ่งที่พวกเราทำสรุปง่ายๆ ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้อำนาจครั้งแรกแล้วจะทำในสิ่งที่พรรคต่างๆ ไม่เคยกล้าทำ” นายรังสิมันต์กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า อะไรที่เราเคยพูดจาหาเสียงกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัด การทลายทุนผูกขาดผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าจิตวิญญาณที่ส่งต่อจากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล คือเราพูดคำไหนคำนั้น
“การพูดคำไหนคำนั้น อาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่หากเอาพรรคต่างๆ ในวันนี้มากางดู พรรคการเมืองที่มีความชัดเจน หาเสียงสัญญากับพี่น้องอย่างไรแล้วทำแบบนั้น นับวันมันแทบไม่มี จนผมสรุปได้เลยว่ามีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่ยังมีความชัดเจน เราพูดเหมือนกันทุกคนว่า มีเราไม่มีลุง ยืนยันอย่างนั้นและพรรคก้าวไกลจะไม่มีวันทรยศประชาชนเด็ดขาด” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้หลายพรรค ไม่พูดว่าจะจับมือกับใครหรือไม่จับมือกับใคร เพราะถึงเวลาร่วมรัฐบาลจะได้พลิกแพลงกันได้ แต่พรรคก้าวไกลไม่ใช่แบบนั้น เราคิดมาดีแล้วว่าตราบใดที่ยังมีลุงในการเมืองไทย นโยบายที่เราตั้งใจทำ จะไม่มีทางสำเร็จ เราถึงขั้นจะทำเป็นเอ็มโอยูให้ประชาชนได้ตรวจสอบว่า สุดท้ายแล้วเงื่อนไขอะไรที่ทำให้พรรคก้าวไกลจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่น ทุกคนจะได้รู้ว่าประเทศนี้กำลังไปทิศทางไหน
วันนี้พรรคก้าวไกลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เจอกับการสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีทุกรูปแบบ เพราะผู้มีอำนาจตระหนักดีว่าถ้าพรรคนี้มีอำนาจเมื่อไร พวกปรสิตเหลือบไรที่กัดกินเอาผลประโยชน์ที่เป็นของประชาชนไป จะไม่มีที่ยืน แต่ตนขอยืนยันกับประชาชนเลยว่า ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ตราบใดที่ยังมีพรรคก้าวไกล หรือต่อให้ยุบพรรคก็จะตั้งพรรคใหม่ เราจะไม่ยอมแพ้จนกว่าประเทศนี้จะเปลี่ยนแปลง
นายรังสิมันต์กล่าวว่า 14 พ.ค.นี้ เป็นวันที่ต้องจารึกว่าชาวสุราษฎร์ธานีจะแห่กันไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เพื่อขีดฆ่าเผด็จการและส่งนายพิธา เป็นนายกฯ ขอให้เลือกพรรคก้าวไกล 2 ใบ เลือกผู้สมัครพรรคก้าวไกลทุกเขต ให้เขาได้เป็นส.ส. ที่พิสูจน์ตัวเองว่าทำงานคุ้มค่าภาษีประชาชน ให้เขาได้จารึกว่าเป็น ส.ส.ที่ดีที่สุดของสุราษฎร์ธานี