สุพัฒนพงษ์ ยันเก้าอี้รมว.พลังงาน แข็งแรง เมินปม 8 ปี ชี้นายกฯ ยังทำงานปกติ

Home » สุพัฒนพงษ์ ยันเก้าอี้รมว.พลังงาน แข็งแรง เมินปม 8 ปี ชี้นายกฯ ยังทำงานปกติ



สุพัฒนพงษ์ ยักไหล่ ปมนายกฯ 8 ปี บอกวันนี้ นายกฯยังทำงานปกติ ไม่ได้สั่งเสียอะไร เร่งสร้างโอกาสดึงดูดนักลงทุนเข้าประเทศ ยันไม่ต้องเพิ่มรมช.พลังงาน

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะมีคนมาแทนในตำแหน่งรมว.พลังงาน ตอนนี้เก้าอี้ยังมีขาแข็งแรงอยู่หรือไม่ว่า ไม่ทราบ ตนนั่งเก้าอี้สี่ขา เรื่องนี้ไม่เป็นอะไร ทำหน้าที่ต่อไป ยังต้องทำงาน เพราะปัญหาหน้างานก็เยอะอยู่แล้ว รวมทั้งปัญหาอนาคตที่จะต้องสร้างและดึงดูดนักลงทุน เพราะต้องทำคู่กัน

ตอนนี้ปัญหาหน้างาน เช่น ราคาพลังงาน วิกฤตต่างๆ ต้องแก้ไขกันไป ขณะเดียวกัน เราต้องทำงานเชิงรุก และในวันนี้ในที่ประชุมบีโอไอ ได้มีการอนุมัติรถยนต์ค่ายใหญ่ของจีนที่จะเข้ามา ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของจีนที่ตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย ทั้งรถอีวี บีอีวี”

เมื่อถามว่าอยากได้ รมช.พลังงานมาช่วยงานหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า มีปลัดกระทรวงที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ทีมงานดี มีผู้แทนการค้ามาช่วยเชิงรุก เป็นไปด้วยดี ขอให้เชื่อมั่น และให้ช่วยติดตาม

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เราต้องทำงานทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ทั้งหน้างานและอนาคตด้วย ไม่ได้หยุดนิ่ง ซึ่งเป็นนโยบายของนายกฯ ที่กำชับและเร่งรัดทุกฝ่าย อีกทั้งช่วงประชุมเอเปก จะมีนักธุรกิจเข้ามามาก เราต้องทำให้บุคคลเหล่านี้ เห็นถึงโอกาสและความน่าสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทย ขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีดีที่จะดึงดูดทุกคนเข้ามา เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันที่ 23 ส.ค.นี้ ศาลตัดสินว่านายกฯ ไม่สามารถไปต่อได้ในกรณีครบ 8 ปี จะกระทบต่อแผนงานและนโยบายหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องกฎหมาย ตนไม่มีความรู้ ตนแค่ทำงานก็หมดเวลาไปทั้งวันแล้ว ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เพราะคิดว่าทุกอย่างเดินไปได้ตามปกติ งานทุกอย่างขับเคลื่อนโดยข้าราชการประจำและทีมงานที่มีอยู่ จึงไม่น่าจะมีประเด็นอะไร ดังนั้น เรื่องนี้ต้องว่าตามกฏหมาย

เมื่อถามย้ำว่าในที่ประชุมบีโอไอในวันนี้ นายกฯ ไม่ได้มีการสั่งเสียใดๆ หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ หัวเราะและ กล่าวว่า อ๋อ ไม่ ทุกอย่างนายกฯยังทำงานปกติ และติดตามให้ความสำคัญกับเรื่องที่จะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤต เรื่องที่ต้องประคับประคอง และต้องมีเสถียรภาพ มีความมั่นคงในทุกด้านให้ได้ ขณะเดียวกันต้องฉกฉวยโอกาสดึงดูดให้เชื่อถือเชื่อมั่นประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่น่าลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ