นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (4 ก.ย.) ว่าต้องการให้สังคมปรับทัศนคติเชิงลบเรื่องที่มีทหารเกณฑ์ถูกทารุณจนเสียชีวิตในค่ายทหาร ว่าที่จริงแล้วเกิดขึ้นเพียงไม่กี่กรณี แต่ถูกสำนักข่าวรายงานจนเป็นข่าวใหญ่
“ทัศนคติที่สังคมยังมีทัศนคติเชิงลบที่มีต่อทหารเกณฑ์อยู่คือ ผู้ปกครองยังติดภาพเดิมๆ อยู่ว่าระบบการฝึกมันทารุณโหดร้าย เด็กเจ็บ เด็กตายอะไรอย่างเงี้ย อะไรอย่างเงี้ยเราต้องปรับความเชื่อเขา จริงๆ มีเคสไม่มาก แต่ว่ามันเป็นข่าวเยอะ“ นายสุทิน กล่าว
คำพูดนี้เกิดขึ้นระหว่างที่รัฐมนตรีรายนี้กำลังพูดถึงประเด็นการจูงใจให้คนสมัครเป็นทหารมากขึ้น ซึ่งนายสุทินมองว่าต้องมีการปรับ 2 เรื่อง คือ สวัสดิการและทัศนคติ โดยที่ทัศนคติก็แบ่งออกเป็น 2 เรื่องย่อยคือภาพลักษณ์ของการฝึกทหารที่โหดร้ายและความคิดของผู้ปกครองว่าลูกหลานของตนอาจถูกทหารยศใหญ่กว่าทุจริตผลตอบแทน
“ยังมีความเชื่อว่าผู้ปกครองโดยเฉพาะคนชาวบ้านต่างจังหวัดว่าลูกเขามาเป็นทหารเกณฑ์เนี่ยได้เงินเดือนจริง แต่ว่ารับจริงไม่ใช่ ไม่ถึง อันนี้เราก็ต้องพูดให้ชัดว่าเด็กที่เป็นทหารเกณฑ์ต่อไปนี้ได้รับเงินเดือนจริง หักก็หักที่อธิบายได้เท่าที่จำเป็น”
ยังไม่เลิกเกณฑ์ทหาร
การให้สัมภาษณ์นี้ นายสุทินไม่ได้กล่าวถึงการยกเลิกการการเกณฑ์ทหารตามที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าการจูงใจดังกล่าวจะช่วยให้มีผู้มาสมัครเป็นทหารมากขึ้น
รัฐมนตรีรายนี้ย้ำว่าขณะนี้ยังต้องมีทหารอยู่ และกองทัพยังคงต้องการกำลังพลจำนวนหนึ่งเพื่อคงศักยภาพในการรักษาความมั่นคงของประเทศเอาไว้ ดังนั้นถ้าหากเปิดรับสมัครแล้วได้จำนวนผู้สมัครน้อยกว่าความต้องการดังกล่าว ก็จะต้องเกณฑ์เข้ามาเติม
“ที่จริงกองทัพเขาก็อยากได้คนที่สมัครนะ เพราะคนที่สมัครใจมาเป็นมันมีความพร้อม จะได้ทหารที่ได้ ไอ้เกณฑ์ถ้าไม่จำเป็นเขาก็ไม่อยากได้หรอก ทีนี้ได้คนสมัครใจเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ถึงจะเกณฑ์ แล้วยอดเนี่ยเท่าที่ฟังแล้วกองทัพเขาก็ยินดีจะปรับลด ถ้ายอดมันเยอะไป เขามาดูแล้วก็ปรับลดลงได้ แต่ว่าลดลงในเกณฑ์ที่ว่าไม่กระทบกับศักยภาพเขา เมื่อลดลงแล้วเนี่ยก็รับสมัคร มันก็ใกล้เป้าขึ้น” นายสุทิน กล่าว
อย่างไรก็ดี นายสุทินกล่าวว่ากองทัพก็มีแผนการปรับลดกำลังพลอยู่แล้ว โดยเฉพาะจำนวนนายพล และเชื่อว่าภายในปี 2570 จะได้เห็นกองทัพที่มีโครงสร้างต่างออกไปโดยสิ้นเชิง