สุทิน ซัด นายกฯ มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก จวก พปชร.โลเล ไร้จุดยืนสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ หวั่นแค่ป่วนล้มเลือกตั้ง จี้แสดงสปิริตลาออก ปมนั่งนายกฯ 8 ปี
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 22 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า หากไม่มีอะไรเป็นอุบัติเหตุทางอารมณ์ในสภา จะอภิปรายปิดได้ในช่วงเวลา 17.00 น. และเชื่อว่าคงเร็วกว่าทุกครั้ง ไม่ได้อภิปรายถึง 23.00 น.เหมือนทุกครั้ง แต่ทุกอย่างคลาดเคลื่อนได้
ส่วนภาพรวมการอภิปรายเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ถือว่าเป็นไปด้วยดี เราพอใจ เพราะมีเนื้อหาที่เข้มข้น มีการทำงานเป็นทีมที่ชัดเจน มีประเด็นใหม่ๆขึ้นมา เช่น เรื่องการบรรจุลูกคนใกล้ชิดให้ได้เป็นข้าราชการตำรวจ ซึ่งเราคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่และมาจากคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เรานำเสนอว่าฝ่ายการเมืองตอบแทนบุญคุณกันโดยไม่เกรงใจประชาชน ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกชาวบ้าน แต่เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม รวมถึงคนอื่นๆ ไม่ชี้แจงเลย ถือเป็นประเด็นที่ค้างคาใจประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเด็น อย่างเรื่องการใช้งบกลางไม่สอดคล้องวัตถุประสงค์ เรื่องเหมืองอัครา เรื่องเครื่องบินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่นายกฯ กลับตอบให้เป็นเรื่องเล็ก ตนจะอภิปรายสรุปอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลเรื่องงูเห่าจะปรากฎตัวเพิ่มเติมในการโหวตอีกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่กังวล คิดว่าคงมีประมาณเดิมที่รู้กันอยู่ มีทั้งขาออกขาเข้า ตนไม่อยากให้ความสนใจมือในสภา แต่อยากให้คำนึงถึงศรัทธาและความรู้สึกของคนข้างนอก และประชาชนได้ประโยชน์จากการอภิปรายหรือไม่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ อยากกลับไปใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหารด้วย 100 นายสุทิน กล่าวว่า นี่คือความไม่มีจุดยืน ไม่มีอุดมการณ์ เหมือนที่เขาบอกว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ คือ ไม่มีรากเหง้าของความคิดที่เป็นแก่นสาร สะท้อนว่า วันหนึ่งเอา 100 วันหนึ่งเอา 500 ไม่ได้เปรียบอย่างที่คิด ไปเคาะเครื่องคิดเลข ตนรู้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยน เพราะไปคุยกันมา พรรคร่วมรัฐบาลคุยไปคุยมาไม่ได้เปรียบ บางพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าส.ส.พึงมีได้ 55 คน แต่หวังจะได้ส.ส.เขต 60 คน แบบนี้กลับมา 100 ดีกว่า หมายความว่าอยู่บนพื้นฐานได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ไม่ได้คิดจะวางระบบที่ดีให้กับประเทศ
ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเปลี่ยนไปอย่างไร เราจะยืนหลักของเรา และสังคมจะได้เห็น ใครมีจุดยืนไม่มีจุดยืน ใครคิดเพื่อการเลือกตั้งเท่านั้น อีกทั้งมองว่าการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมานั้นเพื่อทำให้สับสน อาจนำไปสู่การโหวตคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ หากปล่อยให้สูตรหาร 500 ผ่านไปจนประกาศกฎหมายออกมา และเมื่อถึงการเลือกตั้งแล้วรัฐบาลแพ้ โดยที่ยังเป็นรัฐบาลยังรักษาการอยู่ อาจมีการใช้กลไกให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
เมื่อถามถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะยื่นตีความเมื่อไหร่ นายสุทิน กล่าวว่า หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกัน แต่ส่วนตัวไม่อยากยื่น เพราะหวั่นว่าจะกลายเป็นการประทับตรา อยากให้นายกฯ แสดงสปิริตเอง เพราะนายกฯ น่าจะนับเลข 1-8 เป็น
