สุดเวทนา สาวอ้วนหนักกว่า 300 กก. แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ตาย พ่อทิ้ง อยู่ลำพังมาเป็นปี

Home » สุดเวทนา สาวอ้วนหนักกว่า 300 กก. แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ตาย พ่อทิ้ง อยู่ลำพังมาเป็นปี


สุดเวทนา สาวอ้วนหนักกว่า 300 กก. แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ตาย พ่อทิ้ง อยู่ลำพังมาเป็นปี

สุดเวทนา สาวอ้วนหนักกว่า 300 กก. แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ตาย พ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็ก อยู่ลำพังมาเป็นปี เหลือป้าคอยช่วยดูแล วอนคนใจบุญช่วย

วันที่ 25 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุรศักดิ์ เพชรสว่าง อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งมีภาวะอ้วนน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากพ่อทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ที่เป็นเสาหลักคอยดูแลก็เสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2564 ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากเพราะไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่หมู่บ้านหนองปรือ ต.ลำไทรโยง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบ น.ส.แหม่ม ได้ดี อายุ 37 ปี หญิงสาวที่มีภาวะอ้วนนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าบ้าน มีทั้งชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และ อสม.มาเยี่ยมให้กำลังใจ ทั้งนี้ อสม. ได้ใช้เครื่องวัดความดันมาตรวจวัดให้กับ น.ส.แหม่ม แต่เนื่องจากเธออ้วนมาไม่สามารถวัดได้

จากการสอบถาม น.ส.แหม่ม กล่าวว่า ตนเริ่มมีภาวะอ้วนมากประมาณ 5 ปีแล้ว ปัจจุบันน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม จากเมื่อก่อนก็ยังพอทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่พอน้ำหนักมากเดินเหินก็ลำบาก แค่เดินไปไม่ไกลก็มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่สะดวก แขนขาก็บวมเพราะรับน้ำหนักมาก แม้แต่เข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวก็ลำบาก เมื่อก่อนยังมีแม่คอยดูแล แต่พอปลายปี 64 แม่เสียชีวิตก็ต้องอยู่คนเดียว ส่วนพ่อก็ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ยังเล็ก

ทุกวันนี้มีเพียงป้าซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ คอยซื้อข้าวสารและอาหารมาให้กินประทังชีวิต เพราะตนไม่สามารถทำงานอะไรได้ แต่ป้าก็ลำบากเพราะต้องเลี้ยงดูหลานอีกหลานคน จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐหรือผู้ใจบุญพาไปรักษาให้หายจากภาวะอ้วนมากแบบนี้ เพื่อให้สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้

นางสำราญ แจ่มโพธิ์ อายุ 70 ปี ป้าของ น.ส.แหม่ม กล่าวว่า เมื่อก่อนหลานยังพอทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ และยังมีแม่คอยดูแล แต่เมื่อประมาณ 4 – 5 ปีหลานมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 300 กว่ากิโลกรัม จนไม่สามารถทำงานอะไรได้ เพราะแค่เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบแล้ว ซ้ำแม่ของหลานก็มาเสียชีวิตเมื่อปลายปีที่แล้ว หลานก็ต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวลำพัง ถึงแม้จะยังพอช่วยเหลือตัวเอง เช่น หุงข้าว ทำกับข้าว และเข้าห้องน้ำเองได้ แต่ตนก็ต้องคอยแวะมาดูแลนำข้าวสาร หรือกับข้าวมาให้เพราะสงสาร แต่ก็ช่วยได้ตามกำลัง เพราะตนก็ลำบากเหมือนกัน บางครั้งก็ต้องเจียดเงินเบี้ยคนชรามาซื้อข้าวสาร และเอาอาหารจากวัดมาให้หลานกิน

นางสำราญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ก็พอช่วยได้ตามมีตามเกิด แต่ที่เป็นห่วงคือถ้าตนเสียชีวิตไปแล้วใครจะดูแลหลาน จึงอยากให้หน่วยงานหรือผู้ใจบุญช่วยพาหลานสาวไปรักษาให้หายจากภาวะอ้วนแบบนี้ เพื่อให้หลานสามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ เพราะหากจะไปรักษาเองคงไม่มีปัญญาแค่เงินจะกินอยู่วันๆ ก็ลำบากอยู่แล้ว

ขณะที่ นายนพรัตน์ สุขสำราญ รองนายก อบต.ลำไทรโยง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาดูก็พบว่าน้องมีภาวะอ้วนมากและลำบากจริง เบื้องต้นทาง อบต.ก็จะได้ประสานผู้นำชุมชน และ รพ.สต. เพื่อพาน้องไปตรวจและยื่นเรื่องตามขั้นตอน ว่าน้องเข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับเบี้ยคนพิการหรือไม่ ส่วนเรื่องอาชีพทาง อบต.ก็จะหางานที่น้องสามารถทำที่บ้านได้โดยไม่ต้องเดินทางไปมา แต่ความจริงแล้วก็อยากให้มีการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้สามารถทำงานได้เป็นปกติก่อน ซึ่งก็จะได้หาแนวทางช่วยเหลือน้องตามขั้นตอนต่อไป

ซึ่ง นายสุรศักดิ์ และผู้นำหมู่บ้านก็ได้มอบเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น แต่หากใครอยากจะช่วยเหลือทั้งค่ารักษา และความเป็นอยู่ก็สามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี น.ส.แหม่ม ได้ดี หมายเลขบัญชี 097-3-60238-1 ประเภทออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท ชลบุรี 3

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ