สุดเข้มขลังค์… เมฆบังดวงอาทิตย์ คล้ายเสือคาบแก้ว ระหว่างหลวงปู่เฮง ปภาโส เกจิดังอีสานใต้ นั่งปรกอธิษฐานจิตร่วมกับ 9 เกจิ ปลุกเสกเหรียญเสมาคาบแก้ว ชาวบ้านไทย-เขมรนับพัน แห่รอรับแจกเหรียญและผ้ายันต์เสือคาบแก้ว หลวงปู่เฮง ใส่แว่นดำแปลกตา
วันที่ 9 มี.ค.67 ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม เกจิดังอีสานใต้ เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก วาระใหญ่ รุ่น”เสมาเสือคาบแก้ว วาระที่ระลึก 8 รอบ” โดยหลวงปู่เฮง ปภาโส ได้นั่งปรกอธิษฐานจิตร่วมกับพระเกจิอาจารย์ อีก 9 รูป อย่างเข้มขลังค์ ท่ามกลางประชาชนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ชายแดน ทั้งชาวไทยและกัมพูชา และจากต่างจังหวัดที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก นอกจากนี้ ระหว่างประกอบพิธีพุทธาภิเษก พบว่ามีเมฆเคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์อยู่เหนือพิธี คล้ายกับภาพเสือที่กำลังคาบแก้วอีกด้วย ทำให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีต่างฮืออากันอย่างมาก และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพิธีมีความเข้มขลังค์และศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก
สำหรับเหรียญวัตถุมงคลรุ่น ”เสมาเสือคาบแก้ว วาระที่ระลึก 8 รอบ” จัดสร้างโดยคุณพลอย เสบียงบุญ เพื่อสมทบทุนสร้างมลฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเนื้อเหรียญมีหลากหลายแบบให้เช่าบูชา
หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษก ได้มีการแจกเหรียญวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าว จำนวน 500 เหรียญ และผ้ายันต์รุ่นเสมาเสือคาบแก้ว อีก 500 ผืน โดยผ้ายันต์เสมาเสือคาบแก้ว เป็นภาพหลวงปู่เฮงฯ ใส่แว่นดำ เป็นที่แปลกตาและแตกต่างจากผ้ายันต์ทั่วไป ซึ่งลูกศิษย์บอกว่าปกติหลวงปู่เฮงฯมักจะชอบใส่แว่นดำกรองแสง เพื่อถนอมสายตาเพราะท่านอายุมากแล้ว ทำให้ภาพผ้ายันต์อาจแปลกตา และดูเข้มขึ้นดังกล่าวโดยมีชาวบ้านนับพันคนต่างกรู แห่เข้าไปรอรับเหรียญด้วยความศรัทธาหลวงปู่เฮงเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เซียนพระได้รอรับซื้อหรือรับเช่าเหรียญที่แจกให้ประชาชนอยู่ที่ในวัด ซึ่งหลังจากที่เซียนพระรับซื้อเหรียญแล้ว ก็จะนำไปปล่อยให้เช่าต่อในราคาที่สูงขึ้น ขณะที่ชาวบ้านบางคนก็เก็บเอาไว้เพื่อบูชา และคราวใดที่มีการปลุกเสกเหรียญพระเครื่องต่างๆก็จะมีประชาชนมารอรับแจกจำนวนมากทุกครั้งด้วยความศรัทธา และเป็นที่ต้องการของเซียนพระเป็นอย่างมาก
พลอย เสบียงบุญ ผู้จัดสร้าง กล่าวว่า วันที่ 9 มี.ค.67 เป็นวันฤกษ์ดีวันธงชัย ปลุกเสกเหรียญหลวงปู่เฮ งรุ่นเสือคาบแก้ว วาระใหญ่ และถือว่าเป็นรุ่นแรก เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างรูปเหมือนหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในงานวันนี้มีทั้งโรงทาน แจกข้าวสาร 400 ถุง ถุงละ 2 ก.ก.โดยมีเกจิอาจารย์จำนวน 10 รูปมาร่วมปลุกเสกในวันนี้ และช่วงท้ายจะมีการแจกเหรียญและผ้ายันต์อีกด้วย
ประวัติ หลวงปู่เฮง ปภาโส
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 97 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท
ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท
ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย
พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้
ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย