สุดารัตน์ นำไทยสร้างไทย ถกรัฐมนตรีช่วยวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ชูเป้าหมาย ขจัดความยากจน-หนุนการเข้าถึงแหล่งทุน สนับสนุนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมกับนายโภคิน พลกุล ในฐานะประธานสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-จีน ร่วมหารือ นาย Chen Zhou รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ถึงความร่วมมือระหว่างพรรคไทยสร้างไทย และพรรคคอมมิวนิสต์จีน
โดยเฉพาะเป้าหมายการขจัดความยากจนให้กับประชาชน ให้สําคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับคนตัวเล็กและ SMEs โดยมุ่งมั่นให้ประชาชนเข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เข้าถึงองค์ความรู้ และตลาด เพื่อแข่งขันได้ ยึดมั่นในหลักการแบ่งปันและความห่วงใยของสังคมเพื่อนมนุษย์ โดยมีเป้าหมายหลักคือสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ทุกคน และให้ความสําคัญกับการดูแลประชาชนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยชราเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวยกย่องพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับประเทศ และสามารถขจัดความยากจนให้หมดไป อีกทั้งยังยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์และพร้อมช่วยเหลือประเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และส่งเสริมให้พันธมิตรร่วมกันเพื่อสร้างความเจริญเติบโตให้เกิดแก่ประชาคมโลก
นอกจากนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังแสดงความยินดีที่ประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน หลังรัฐบาลจีนออกมาตรการผ่อนคลายให้ เดินทางออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยการท่องเที่ยวของประเทศไทยและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของประเทศไทยที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวด้วย
ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้รับเกียรติขึ้นบรรยายในงานบรรยายสรุปในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย พรรคคอมมิวนิสต์จีน สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และ Friends of Silk Road แห่งประเทศไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า บทบาทของพรรคการเมืองคือ ต้องเสียสละและมุ่งมั่นทำงานอย่างจริงใจและซื่อสัตย์ ดิฉันเชื่อว่าหากทุกฝ่ายในประเทศไทยและทั่วโลกร่วมมือกันดูแลประชาชน สงครามและความขัดแย้งจะค่อยๆ ลดลงแทนที่จะทวีความรุนแรงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และในที่สุดโลกจะมีสันติภาพ และผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้านนายโภคิน กล่าวว่า แนวทางอันน่าชื่นชมจากการประชุมสมัชชาฯ สมัยที่ 20 คือ การแบ่งปันและการมีผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชาติและประเทศทั้งหลายทั่วโลก ต่างจากในอดีตที่ชาติใดมีความเข้มแข็งเกรียงไกรแล้วก็จะแสดงความครอบงำเหนือชาติอื่น ใช้ความเข้มแข็งในการแสวงหาประโยชน์และเอาเปรียบชาติอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งและสงคราม
อีกทั้งยังกำหนดเป้าหมายที่จะสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ ถือเป็นที่สนใจของประชาชนทุกภาคส่วนทั้งไทยและต่างประเทศ หากทุกภาคส่วนได้มีความเข้าใจร่วมกัน ประสานงานกัน และก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องพร้อมกัน ย่อมสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่มวลมนุษย์ และโลกจะมีสันติภาพและการพัฒนาที่มีคุณภาพและยั่งยืน
