สุดสลด พ่ออุ้มร่างลูกสาว5ขวบ ร้องให้ชาวบ้านช่วย แม่ป่วยทางจิตกดดับคาหมอน เผย ก่อนหน้าวันเดียว ลูกคนโต 11 ขวบ เพิ่งจะดิ้นหนีออกมาได้

วันที่ 13 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.เอกชัย ทะสา พนักงานสอบสวน สภ.กันทรวิชัย ว่าเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 2566 ได้รับแจ้งเหตุแม่ทำร้ายลูกจนเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบ ผู้เป็นพ่อ กำลังอุ้มร่าง ด.ญ. อายุ 5 ขวบ ลูกสาวร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านนำส่ง รพ. แต่ปรากฏว่าเด็กเสียชีวิตไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.วราภรณ์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นแม่ และมีอาการป่วยทางจิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ตามคดีอาญาที่ 170/2566 คดีอุกฉกรรจ์ที่ 1/2566 ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา แต่ประสงค์จะให้การในภายหลัง เนื่องจากอยู่ระหว่างการรักษาจาก รพ.มหาสารคาม

ส่วนสาเหตุจูงใจนั้น น.ส.วราภรณ์ มีความคิดว่า หากเลี้ยงลูกให้ดีไม่ได้ ก็จะตายไปด้วยกัน โดยก่อนหน้าวันเกิดเหตุเพียง 1วัน น.ส.วราภรณ์ ได้พยายามใช้หมอนปิดจมูกลูกสาวคนโต อายุ 11 ขวบ แต่ลูกสาวคนโตดิ้นหนีออกมาได้ แล้วได้วิ่งหลบออกไป พอมาวันเกิดได้เรียกลูกสาวคนเล็กเข้าไปในห้องนอนและล็อกประตู ต่อมานายเทอดศักดิ์กลับมาเคาะประตูเข้าไปในห้องนอน พบร่างลูกสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงพร้อมรอยเลือดติดหมอน พบ น.ส.วราภรณ์ พยายามจะใช้มีดและเชือก จบชีวิตตัวเอง

ส่วนเพื่อนบ้าน ยายปั่นและยายต๋อย เล่าว่า ในละแวกเดียวกันก็ไม่ทราบว่าเหตุทำร้ายมาจากอะไรยังไม่รู้ด้วยว่ามีเหตุการณ์สลดเกิดขึ้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ที่ผ่านมาเห็นเขาเลี้ยงลูกก็ไม่เคยเห็นปล่อยลูกๆออกมาเล่นนอกบ้านสักครั้ง คิดแล้วก็ยังแปลกใจเหมือนกันทำไมถึงทำลูกตัวเองได้ ยังอยู่ในวัยที่น่ารักน่าชัง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดป่าธรรมอุทยาน ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ ด.ญ.ชาลิสา โดยมีการตั้งสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 2 แล้ว และมีพิธีฝังตามประเพณี