สุดสลด พ่อทำร้ายลูกสาววัย 4 เดือน ทุบตี-จับกดน้ำจนตาย หิ้วศพไปฝังในป่าช้า

Home » สุดสลด พ่อทำร้ายลูกสาววัย 4 เดือน ทุบตี-จับกดน้ำจนตาย หิ้วศพไปฝังในป่าช้า
สุดสลด พ่อทำร้ายลูกสาววัย 4 เดือน ทุบตี-จับกดน้ำจนตาย หิ้วศพไปฝังในป่าช้า

สุดสลด พ่อทำร้ายลูกสาววัย 4 เดือน ทุบตี-จับกดน้ำหลายครั้งจนเด็กตาย หิ้วศพไปให้พระทำพิธีฝัง สุดท้ายเมียหนีออกจากบ้านไปแจ้งความ

จากกรณี น.ส.พรนภา  เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการกองปราบปรามขอความช่วยเหลือ หลังนายศุภวัฒน์ สามี ทำร้ายเด็กหญิงอายุ 4 เดือน ลูกสาวคนเล็ก จนเสียชีวิต และขู่บังคับไม่ให้นำเรื่องไปบอกใครไม่นั้นจะฆ่าให้ตายทุกคน ก่อนที่นำร่างลูก 4 เดือนไปฝังอำพรางคดีโดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. สุดท้ายผู้เป็นเมียหนีออกจากบ้านมาแจ้งความ

โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายศุภวัฒน์ มาชี้จุดที่ฝังศพลูกสาว ภายในสำนักสงฆ์ทุ่งโสก ม.9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ฯ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นป่าช้าเก่า เด็กถูกฝังไว้ใกล้ต้นไม้ใหญ่ หลุมลึกประมาณ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.เพื่อนชันสูตร 

จากการสอบสวน นายศุภวัฒน์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือทําร้ายลูกสาวคนเล็กมาโดยตลอด โดยตนเองเสพยาบ้า เกือบทุกวัน วันละ 2-3 เม็ด และหากทะเลากับ น.ส.พรนภา ภรรยา ก็จะทําร้ายลูกเฉลี่ยประมาณ 5 วันต่อสัปดาห์ หนักบ้าง เบาบ้าง โดยจะใช้ วิธีการทุบตี จับกดน้ำ หรือเอาน้ำฉีด โดยทุกครั้ง ลูกจะร้องทุกครั้ง และก่อนหน้านี้ ยังเคยทําร้าย น.ส.พรนภา อีกด้วย

โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ช่วงเช้า ที่บ้านเลขที่ 72/1 ม.3 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ ที่อาศัยอยู่ ตนเองทะเลาะกับ น.ส.พรนภา ภรรยา จึงได้ทําร้ายลูกคนเล็กอีก โดยการทุบตีที่บริเวณร่างกาย ส่วนใหญ่จะเป็นที่เอวข้างซ้ายและต้นขาข้างซ้าย จํานวนหลายครั้ง นานประมาณ 10-15 นาที จากนั้น จึงนําไปกดน้ำจนมิดหัว ประมาณ 2-3 วินาที ในถังน้ำภายในห้องน้ำ จนลูกแน่นิ่งไป จึงนําไปให้ น.ส.พรนภา ซึ่งอยู่ในห้องนอน ต่อมาในตอนเย็น ตนได้ออกไปจากบ้าน และในตอนค่ำ น.ส.พรนภา ได้โทรบอกว่า ลูกคนเล็กหายใจไม่ออก ตนเองจึงกลับมาที่ บ้านและเวลาประมาณ 22.00 น. เศษ น.ส.พรนภาบอกว่าลูกเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่แน่ว่าจะเสียชีวิตจริงหรือไม่จึงไม่ได้พาไปหาหมอ

จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 12 ส.ค.ตนเองกับน.ส.พรนภา จึงได้หาที่นําศพลูกไปฝังหรือเผา และได้นําศพลูกใส่ลังกระดาษ แล้วปิดเทปกาว และในเวลาประมาณ 15.00 จึงขับรถจักรยานยนต์ พาน.ส.พรนภา โดยเอาศพลูกที่ใส่ลังกระดาษไปด้วย ไปที่สํานักสงฆ์ทุ่งโศก ม.9 ต.บ้าน ส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และพระได้ทําพิธีและฝังศพให้ โดยโกหกกับพระว่า ลูกตายเพราะรถล้ม นายศุภวัฒน์ ยังรับสารภาพอีกว่า สาเหตุที่ลูกเสียชีวิตนั้น เกิดจากการที่ตนเองทําร้ายร่างกายลูกสะสม มาหลายครั้งและในวันที่ทําร้ายครั้งสุดท้ายดังกล่าวพลั้งมือทำร้ายอย่างหนักมากเกินไป จนเป็นเหตุให้ลูกตาย และสํานึกผิดในการกระทําของตนเอง

ทางด้าน นางหีด แม่ของผู้ถูกกล่าวหา เล่าว่า เดิมจะเอาหลานคนนี้มาเลี้ยงเอง และให้ลูกชายและลูกสะใภ้โอนเด็กให้มาเป็นลูกของตน เพราะลูกชายทะเลาะกับลูกสะใภ้กันบ่อย แต่ลูกไม่ทำให้สักที จึงส่งให้กลับไปเลี้ยงกันเอง ตอนเกิดเหตุนั้นไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น แต่พอจะทราบว่าหลานป่วย ถามหาหลานแต่ลูกชายก็ไม่ยอมบอก ปกปิด ก่อนจะสืบจนพบว่านำมาฝังไว้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกชายจะทำคนเดียว ลูกสะใภ้ต้องมีส่วนรู้เห็นด้วย จึงอยากให้เจ้าหน้าสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และเอาผิดทั้งสองคน

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา “ทำร้ายผู้อื่น โดยกระทำทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ,ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายหรือไม่มีเหตุอันควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือ

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ