สุดรันทด 4 ชีวิตแม่ลูก อาศัยตึกร้างซุกหัวนอน ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ใช้น้ำขังในบ่อข้างถนนดื่มประทัง คลอดลูกเองในป่าไม่ได้ไปหาหมอ อ้างไม่เงิน
วันที่ 25 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีแม่ลูก 4 ชีวิตอาศัยอยู่ภายในตึกร้าง บริเวณริมถนนสายบายพาส-ปราณบุรี ฝั่งขอล่องใต้ ม.4 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นที่ซุกหัวนอนท่ามกลางกองขยะ น้ำและไฟไม่มี ต้องอาศัยน้ำขังในบ่อข้างถนนใช้ต้มดื่มกิน หุงข้าว และอาบน้ำ ใช้ป่ารกข้างหลังอาคารเป็นที่ขับถ่าย รวมทั้งหาผักและปลามาทำกับข้าวกินเพื่อประทังชีวิต
หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว พบโครงสร้างเป็นแบบอาคารพาณิชย์ 5 คูหา ที่ยังสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยทิ้งร้าง น้ำและไฟไม่มี ภายในตัวอาคารพบ น.ส.ชนนิกานต์ คำพิม อายุ 28 ปี อาศัยอยู่กับลูกสาว 4 คน อายุ 2 ปี, 5 ปี, 8 ปี และอายุ 1 เดือนที่กำลังนอนอยู่ในเปลผ้า ท่ามกลางกองผ้าและเศษขยะที่กองกระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก มองดูแล้วสุดเวทนา
น.ส.ชนนิกานต์ เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้วตนได้หอบลูกน้อย 3 คนติดตามสามีจาก จ.อุดรธานี เพื่อมารับจ้างตัดอ้อยในพื้นที่ อ.ชะอำ โดยพักอยู่ในแคมป์คนงาน แต่ต่อมานายจ้างได้ไล่ให้ตนและสามีออกจากงาน โดยอ้างว่าตนมีลูกเยอะและขี้เกียจทำงาน ขณะที่เดินเร่ร่อนอยู่ริมถนนสายบายพาส ได้พบเห็นอาคารดังกล่าวจึงเข้าไปอาศัยหลับนอนโดยไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ต้องใช้น้ำขังในบ่อข้างถนนมาต้มเพื่อใช้ดื่มกิน หุงข้าว อาบน้ำ และใช้ป่ารกชัฏเป็นที่ขับถ่าย
น.ส.ชนนิกานต์ กล่าวต่อว่า ต่อมาสามีได้ออกไปทำงานรับจ้างรีดน้ำวัวในหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากอาคารร้าง ซึ่งเงินค่าจ้างที่ได้มาก็ไม่พอใช้จ่าย ตนต้องออกไปหาผัก หาปลา และหอยเชอรี่ในคูคลองมาทำกับข้าวรับประทานเพื่อประทังความหิว ส่วนขนมของลูกก็ไม่มีเหมือนเด็กทั่วไป ต้องหาลูกพุทรา มะขามเทศ และผลไม้อื่น ๆ ที่มีอยู่ในป่ารกชัฏมาให้กิน และเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาตนได้คลอดลูกสาวเองโดยมีสามีคอยช่วยเหลือนำกรรไกรมาตัดรกโดยไม่ได้ไปหาหมอแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเงินและรถที่จะไปโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงว่า ก่อนหน้านี้เคยมีชาวบ้านนำอาหารและของใช้ไปให้ รวมถึงเก็บขวด เศษเหล็กให้ น.ส.ชนนิกานต์ ไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว แต่น.ส.ชนนิกานต์ไม่ค่อยจะออกไปเอา รวมถึงมีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือนำบุตรสาว 2 คนไปเข้าเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.ชะอำด้วย