สุดชื่นมื่น! จั๊กจั่น จูงมือ เค วัฒนา ฝ่ามรสุม ถึงวันวิวาห์หวาน ขอบคุณที่ไม่ปล่อยมือ
สุดชื่นมื่น! จั๊กจั่น อคัมย์สิริ จูงมือ เค วัฒนา ฝ่ามรสุมจนถึงวันลั่นระฆังวิวาห์หวาน ขอบคุณที่ไม่ปล่อยมือกัน เล็งปั๊มทายาททันที
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ ได้มีพิธีมงคลสมรสระหว่างนักแสดงสาวชื่อดัง จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข และแฟนหนุ่มนักธุรกิจ เค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา หลังจากที่ทั้งคู่ได้เข้าพิธีจดทะเบียนสมรสที่โรงแรมเดียวกันนี้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับพิธีการในช่วงเช้าเริ่มตั้งแต่เวลา 08.05 น. ตามฤกษ์อันเป็นมงคล เจ้าบ่าว-เจ้าสาว พร้อมญาติผู้ใหญ่ ได้ทำพิธีทางศาสนา พร้อมตักบาตรถวายอาหารแด่พระสงฆ์ โดยพระสงฆ์จากวัดปทุมวนารามทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของทั้งสอง จากนั้นเวลา 09.09 น. เป็นพิธีแห่ขบวนขันหมากตามธรรมเนียมพิธีไทย
ต่อมาเวลา 10.55 น. เจ้าบ่าวได้สวมแหวนแต่งงานให้กับเจ้าสาว พร้อมประกอบพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ โดยมีคุณพ่อและคุณแม่ของบ่าวสาวเป็นผู้เจิมและสวมมงคล ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวของทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงเพื่อนสนิทในวงการที่มาร่วมเป็นสักขีพยานรัก อาทิ หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ, เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุชเจริญ, ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์, เกรซ กาญจน์เกล้า และ แกรนด์ กรณ์ภัสสร ด้วยเศียรเกล้า, หยาดทิพย์ ราชปาล, วุ้นเส้น วิริฒพา ภักดีประสงค์, ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน, ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร, พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร, โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม, เดียร์น่า ฟลีโป, ดาว พิมพ์ทอง วชิราคม ฯลฯ
จากนั้นเวลา 15.00 น. จั๊กจั่น อคัมย์สิริ และ เค วัฒนา ควงคู่เปิดใจให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงวันมงคลที่รอคอย โดยเจ้าสาวได้กล่าวถึงความรู้สึกถึงวันมงคลวันนี้ว่า “วันนี้ตื่นเต้นค่ะ ลุ้นหลังจากที่เคยเลื่อนมาแล้ว ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เพราะตั้งแต่เช้ามารันงานยาวมาเลย พิธีในช่วงเช้าเริ่มจากตักบาตรตอนเช้า แล้วก็ตั้งขบวนขันหมาก พิธีสวมแหวน รดน้ำสังข์ และพิธีรับไหว้”
ด้าน เค วัฒนา เจ้าบ่าวกล่าวว่า “วันนี้เจ้าสาวสวยมาก สวยที่สุดเลย ส่วนช่วงเช้าที่เห็นว่าตนเองร้องไห้ คือน้ำตาซึมๆ เนื่องจากประตูนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังเล่นกั้นประตูกัน ซึ่งเป็นประตูสุดท้าย แล้วคนที่กั้นประตูเป็นคนที่สนิทกับจั๊กจั่นที่สุด 2 คน จากก่อนหน้าที่เล่นมาตลอด 10 กว่าประตูจะเป็นเชิงหยอกล้อแซวกันมากกว่า”
“แต่พอมาถึงประตูนี้เราไม่ได้คาดว่ามันจะเป็นประตูที่มีคำถามหรือคำพูดที่แสดงความจริงใจ พี่จ๋าที่เป็นผู้จัดการและพีที่เป็นผู้ช่วยของจั๊กจั่นพูดประโยคที่กินใจเรา เราก็เลยรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเลยจะมีคำถามนี้มาหาเราด้วยเหรอ ทั้งสองคนพูดว่าอยากให้คำมั่นสัญญาข้อหนึ่งว่าจะดูแลและรักจั๊กจั่นเหมือนที่เขาสองคนทำกันมาตลอด เลยรู้สึกดีใจที่ทั้งคู่ไว้ใจและเชื่อใจเรา วันนี้ก็จับมือเดินกันมาจนถึงจุดนี้แล้ว รู้สึกมีความสุข น้ำตาแห่งความปิติว่าเราผ่านกันมาได้จริงๆ”
ในขณะที่ จั๊กจั่น กล่าวต่อว่า “ขอบคุณมากค่ะ เพราะว่าจริงๆ คู่เราสองคนก็เจอเรื่องราวอะไรไม่น่าเชื่อมาเยอะ ขอบคุณที่เรายังจับมือกันตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้แน่นไม่ปล่อย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ต่างๆ มันก็เป็นอุปสรรค สำหรับเราเรื่องความรักก็คือเรื่องที่เคยผิดหวังมาและเป็นปัญหาใหญ่ของตัวเองที่ทำให้เกิดความกังวล แต่กับข่าวที่ออกมามันก็ไม่ใช่เรื่องจริง เราเองมั่นใจในตัวเค เลยคิดว่าเราจะต้องก้าวข้ามผ่านมันให้ได้ ความจริงก็คือความจริง ยังไงทุกคนก็ต้องรู้ในวันหนึ่ง ดีใจที่ผ่านมาได้”
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้างเรามาตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จั๊กจั่น กล่าวว่า “จริงๆ ก็สงสารเพราะเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในสื่อ แล้วต้องคอยมาตอบคำถามอะไรเหล่านี้ แล้วก็เรื่องราวที่เป็นเรื่องส่วนตัวในอดีตเป็น 10 ปีจะต้องถูกเป็นที่พูดถึงของคนอื่น เขาอาจจะไม่ได้ชิน เราก็เกรงใจเขาและครอบครัวเขามาก ต้องบอกว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่เรา เราโตมาคนละครอบครัว ต่างคนก็ต่างเลี้ยงมาคนละแบบ พอมาถึงจุดนี้ก็อยู่ที่เราต้องจับมือเดินด้วยกันไปข้างหน้าแล้วอาศัยความรักความเข้าใจ
ส่วนคำมั่นสัญญาที่มีให้กัน เค บอกว่า ผมจะคอยบอกเขาตลอด ตั้งแต่เล่นละครแล้วครับ กลับบ้านมาเจอเราอาจจะมีความเครียดติดมาด้วยเนื่องจากงานและบทที่ได้รับ แรกๆ เราไม่เข้าใจว่าอาชีพนี้มันคืออะไรยังไง อยู่ด้วยสักพักเริ่มเรียนรู้และสัมผัสถึงได้เข้าใจว่าจริงๆ แล้วเขาต้องการพื้นที่เงียบๆ เราก็แค่บอกเขาว่ามีอะไรก็คุยกับเรานะ เรารับฟัง”
“แล้วมันก็ค่อยๆ ออกมา หมายถึงสิ่งที่อยู่ข้างในระบายออกมา แล้วเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง ปรับตัวเอง และเรียนรู้กัน เขาบอกว่าไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็ใช้ความเข้าใจและคุยกัน ปรับทัศนคติเข้าหากันครับ”
เมื่อถามว่าวันนี้ต้องอยู่ในฐานะ สามี-ภรรยา กันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง จั๊กจั่น กล่าวว่า “เริ่มคุ้นแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพ.ค.ก็จดทะเบียนไปแล้วเพื่อเอาฤกษ์ หลายๆ คนก็จะแซวว่าตั้งแต่ตอนนั้นก็เหมือนแต่งแล้วแหละ แต่จั่นก็รู้สึกว่าเราก็ผู้หญิงเนอะก็อยากจัดงานแต่งก่อน คือเรายังไม่ได้แต่ง แต่ก็เริ่มชินแล้วค่ะ เพราะว่าไปไหนคนก็จะมีแซว (ตอนนี้เปลี่ยนนามสกุลหรือยัง?) ไม่ค่ะ ใช้เหมือนเดิมค่ะ”
ถามถึงการวางแผนชีวิตคู่ยังไง จะมีน้องเลยไหม เจ้าสาวป้ายแดงตอบว่า “คิดว่าจะปล่อยเลยค่ะ เพราะอายุก็สมควรที่จะมีบุตรธิดาได้แล้ว(หัวเราะ) แต่ก็จะลองเป็นไปตามธรรมชาติก่อนค่ะ ถ้าไม่งั้นก็ค่อยว่ากันอีก 1-2 ปี”
เมื่อถามว่าอยากมีกี่คน เค กล่าวว่า “ผมอยากมีสองคน เพราะผมมีพี่น้อง จั่นก็มีพี่น้อง แล้วเวลาเรามีปัญหา เรามีความสุข เราแชร์กัน เลยบอกเขาว่าอยากมีสองคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพศแม่ครับ ต้องอุ้มท้อง ผมไม่ได้อุ้มเอง ต้องแล้วแต่เขาครับ(ยิ้ม)”
ด้าย จั๊กจั่น เสริมว่า “จั่นขอลองคนหนึ่งก่อนแล้วกันว่าโอเคหรือเปล่า รอดไหม เพราะว่าไม่เคยมีหลาน ไม่เคยมีน้อง ไม่เคยเลี้ยงลูก เคยแต่เลี้ยงในละคร เดี๋ยวรอดูของจริงก่อนว่าจะไหวหรือเปล่า เอาคนหนึ่งก่อนแล้วกัน”
ต่อข้อถามว่าตอนนี้มีความสุขขนาดไหน จั๊กจั่น เผยทั้งรอยยิ้มว่า “มีความสุข เพราะว่ามันไม่ใช่แค่เราสองคน แต่ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเรา คนที่เรารัก คนในครอบครัว อย่างเพื่อนๆ พี่ๆ ก็มากันเยอะมาก เราก็ดีใจมากที่วันสำคัญของเรามีพวกเขาอยู่ (ยิ้ม)”
ด้าน เค บอกว่า “วันนี้มีความสุขมากครับ เพราะอย่างที่จั่นได้เรียนไปเมื่อกี้คือญาติ เพื่อน คนในวงการที่ทำงานกับเขา ของผมก็มีเพื่อนสนิท ครอบครัวมาแสดงความยินดี และดูแววตา ดูท่าทาง ดูทุกอย่างแล้ว คำอวยพรทุกอย่างวันนี้มีความสุขมากจริงๆ น้ำตาไหลตลอด”
“เอาจริงๆ ก็กลั้นอยู่เหมือนกัน ธรรมดาผู้ชายน้ำตามันไม่ควรออกบ่อยๆ ก็พยายามกลั้นอยู่ แต่จริงๆ ผมเป็นคนเซ้นซิทีฟเรื่องพวกนี้มาก คือความรักน่ะ รักระหว่างคนสองคน รักระหว่างครอบครัว รักระหว่างเพื่อนฝูง มันคือความรักทั้งหมด”
ถามต่อว่าเหตุผลที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเราคือจุดไหน เค กล่าวว่า “ในพิธีพี่พีเคถามเหมือนกัน ผมเรียนอย่างนี้ว่า ปกติผมเป็นคนรักแม่ เวลาเราดูเขา สิ่งที่เขาทำให้เรา โดยที่เราไม่ได้พูดหรือไม่ได้เอ่ยคือการดูแลเอาใจใส่ทุกๆ เรื่องในชีวิต ตั้งแต่ตื่นมาจนถึงนอน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร”
“จนถึงวันหนึ่งเขาทำให้ เตรียมอันนี้ให้ กลับบ้านมาถามว่าเธอจะเอาอันนี้ไหม พอรู้ว่าเราชอบอันนี้ก็จะไปหามาให้เรารอเลย พอมาถึงมันกลายเป็นความเซอร์ไพรส์ทุกๆ วันครับ เลยรู้สึกว่าจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ และที่สำคัญที่สุดคือเขามีหมา มีแมว มีบริวารอยู่แล้ว มันบ่งชี้ได้เลยว่าเขาดูแลได้ดีมากๆ คือหมาแมวนี่ไม่ต่องมีคำถามเลยว่าถ้ามีลูก คุณจะเลี้ยงลูกได้ดีขนาดไหน”
ด้าน จั๊กจั่น กล่าวต่อว่า “ประทับใจที่เขาเข้าใจในงาน เข้าใจในอาชีพเรา มีเหมือนกันบางทีบทละครที่จั่นรับหรืองานที่ทำมันค่อนข้างที่จะเครียด บางทีอย่างรายการเดอะเฟซก็ค่อนข้างที่จะเครียด มีบ้างที่ไปลงกับเขา เราก็อยู่ในช่วงปรับตัว จูนเข้าหากัน”
“แล้วอย่างที่บอกเขารักครอบครัวของเขา และเขาก็รักครอบครัวจั่น รักแม่จั่น รักพี่ชายจั่น และรักลูกๆ จั่นด้วย ที่สำคัญคือถามเขาแล้วว่าถ้ามีลูกต้องเลิกเลี้ยงหมาแมวมั้ย เขาบอกไม่ต้อง ตามสบาย อันนี้แฮปปี้ บ้านใหม่ก็จะสร้างห้องใหม่ให้หมาแมว อันนี้ก็แฮปปี้(ยิ้ม)”
ถามถึงความประทับใจที่มีต่อฝ่ายหญิง เค กล่าวว่า “สำหรับผมพื้นฐานมากเลยครับ คือความที่เขาเป็นคนมีความรักเอาใจใส่แล้วก็มีรายละเอียดในทุกๆ เรื่องตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ทำให้เรารู้สึกว่าเวลามีเขาอยู่ด้วยแล้วเรามีความสุขและเขาก็ดูแลเราได้ดีจริง นี่แหละเป็นสิ่งที่พื้นฐานมากๆ สำหรับความรักครับ”
สำหรับโมเมนต์ที่ประทับใจในงาน จั๊กจั่น เผยว่า “ประทับใจทุกโมเมนต์เลย แต่ว่าช่วงรดน้ำสังข์ก็คือเป็นนักร้องนำตลอด ร้องไห้ตลอด (หัวเราะ) ซาบซึ้งค่ะเพราะคนที่รักเราอวยพรเราอะไรแบบนี้แต่ละคนก็ให้คำอวยพรต่างๆ ก็ประทับใจช่วงนั้น(ยิ้ม)”
ด้าน เค ตอบว่า “ประทับใจตั้งแต่เช้าเลยครับ คือมาทางทีมเขาก็ให้มาถ่ายรูปก่อน ซึ่งเราสองคนก็พักผ่อนไม่ได้ดูฉากไม่ได้ดูอะไรเลย กังวลกันสองคนว่าจะออกมาดีไหม จะทำให้ทุกคนประทับใจหรือว่าผิดหวังหรือเปล่า แขกที่มาพอเปิดเข้าห้องไปปุ๊บประทับใจมากคือมองหน้าจั่นแล้วรู้เลยว่าทุกคนมีความสุขแล้วแน่นอน เราก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย”
“ระหว่างพิธีการก็คืออย่างที่จั่นบอกว่ามีคนมาอวยพรมีคนมาร่วมแสดงความยินดี อันนี้แหละคือความประทับใจที่มันน่าจะอยู้กับเราไปตลอด นึกเมื่อไหร่ก็คงจะอมยิ้ม มีความสุข หรือเผลอๆ อาจจะน้ำตาคลอเพราะมีความสุขมากเกินไป(ยิ้ม)”
ต่อข้อถามอยากขอบคุณอะไรกันและกัน จั๊กจั่น กล่าวว่า “ขอบคุณที่รักจั่น ไม่ใช่แค่จั่น รักครอบครัวจั่นด้วย แล้วก็ยอมรับในความเป็นเราเป็นตัวเราได้ ขอบคุณจริงๆ ที่พยายามเข้าใจแล้วก็ 3 ปีที่ผ่านมาเราปรับเข้าหากันตลอด เราก็ยังคงต้องเรียนรู้กันต่อไปเรื่อยๆ ขอบคุณที่จับมือกันไว้ไม่ปล่อย รักน้า (หัวเรา)”
ในขณะที่ เค กล่าวว่า “ขอบคุณที่ยอมรับและรักในความเป็นผม เรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตผมทั้งทุกๆ เรื่อง แล้วก็เรื่องที่เจออยู่ในปัจจุบันก็เหมือนกันไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัว แล้วก็เรื่องของเราสองคน ทุกอย่างมันคือเขารับฟังและไปคิดแล้วก็มาคุยกันทุกครั้ง”
“คือเมื่อก่อนอาจจะใช้เวลานานมากกว่าจะคิดแล้วก็มาคุย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดการงอนหรือน้อยใจ แต่เราก็คุยกันแล้วก็บอกว่า มองกัน มันก็มีกันแค่สองคนเนอะ แล้วก็ขอบคุณที่เข้าใจครับ ขอบคุณที่รักผมนะครับ” ด้าน จั๊กจั่น พูดแซวว่า “พูดแบบนี้ต่อไปไม่กล้างอนเลย(หัวเราะ)”