วันนี้ 14 พ.ค. 67 นางสาวมานิตา อายุ 29 ปี ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังไม่สามารถทนพฤติกรรมของอดีตสามีขี้หึงได้ ในขณะบวชเป็นพระยังมีการสั่งให้ผู้เสียหายวิดีโอคอลหาตลอด ไม่เว้นตอนอาบน้ำ นอกจากนี้ อดีตสามีคนดังกล่าวยังมีการแคปภาพตอนผู้เสียหายโป๊ไปโชว์ให้พระในวัดดู โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี นั้น (วัดหนองกระดี่นอก)
โดยผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ตนเริ่มคุยกับนายสิทธิพล หรือเผือก ซึ่งเป็นอดีตสามีของตน ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมาถึงต้นเดือนเมษายน 67 แนะนำให้ตน และอดีตสามีได้ตัดสินใจเลิกรา เนื่องจาก แม่ของฝ่ายชายไม่ชอบตน พร้อมมีการ อ้างว่า ตนจะมาหลอกเอาเงินฝ่ายชาย ด้วยความที่ตนไม่อยากมีปัญหาจึงตัดสินใจยอมเลิกกับฝ่ายชายและถอยความสัมพันธ์ออกมา
แต่หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ยังคงมีพฤติกรรมตามติดตนอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะมีการฉุดขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อไปเคลียร์ปัญหาพูดคุยกันที่บ้าน แต่ก็เคลียร์กันไม่ลงตัว เนื่องจากฝ่ายชายยังมีการติดต่อกลับอดีตภรรยาภรรยาคนแรกอยู่
จนกระทั่งอดีตสามีได้มีปัญหา เพราะไปรับจ้างเปิด บัญชีม้า แต่กลับเอาเงินของผู้จ้างเปิดบัญชี จำนวนกว่า 50,000 บาทไปใช้ จึงทำให้เจ้าของเงินเกิดความไม่พอใจ และพยายามติดตามทวงเงินคืน แต่ทางอดีตสามีของตนไม่มีเงินคืนให้และเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงตัดสินใจหนีไปบวชเป็นพระที่จังหวัดอุทัยธานี
ในขณะที่อดีตสามีของตนบวชเป็นพระนั้น ยังได้มีการโทรศัพท์กับวิดีโอคอลมาหาตนเกือบแทบทุกวัน พร้อมมีการพูดจาในเชิงหึงหวงโดยกล่าวหาว่าตนอยู่กับคนอื่น ซึ่งตอนนั้น ตนพยายามปฏิเสธหลายครั้ง แต่ทางฝ่ายชายก็ไม่เชื่อ ก่อนจะมีการบังคับให้ตนเปิดกล้องวิดีโอคอล ในขณะที่ตนกำลังอยู่ในสภาพเปลือยกายจะอาบน้ำ โดยใช้อ้างว่า ต้องการตรวจเช็คว่า ตนอยู่กับคนอื่นหรือไม่ ซึ่งในขณะนั้น ตนพยายามห้ามปราบ แต่ฝ่ายชายก็ไม่ฟัง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่า ด้วยความที่ตนยังมีใจกับอดีตสามีคนนี้ จึงยอมพูดคุยกันอยู่ จนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายซึ่งยังอยู่ในผ้าเหลืองได้มีการแคปรูปในสภาพที่ตนเปลือยกายส่งมาให้ตนดู ซึ่งตอนนั้น ตนรู้สึกตกใจ และพยายามถามฝ่ายชายว่าเหตุใดต้องแคปภาพไว้ แต่ฝ่ายชายก็ยืนยันว่า ไม่มีอะไร แคปไว้ดูเฉยๆ เท่านั้น
หลังจากนั้นวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา พระในวัดรูปหนึ่งได้มีการแชท Facebook มาหาตน พร้อมมีการเตือนพฤติกรรมของตน และอดีตสามีคนดังกล่าวว่า ทั้งคู่ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอดีตสามีคนดังกล่าวอยู่ในบริบทความเป็นพระภิกษุสงฆ์ มิหนำซ้ำ อดีตสามีของตนยังมีการนำรูปภาพโป๊เปลือยของตนไปให้พระในวัดรูปดูอีก จึงทำให้ตนเกิดความรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ในส่วนสาเหตุที่ตนต้องมาร้อง เพจสายไหมในวันนี้นั้น เนื่องจากว่า อดีตสามีได้มีการข่มขู่ว่า มีญาติเป็นตำรวจ จึงทำให้ตนรู้สึกเกรงกลัวในเรื่องความปลอดภัย และต้องการที่จะยุติความสัมพันธ์กับฝ่ายชาย
ทางด้านพระเผือกที่เป็นอดีตสามีของ น.ส.มานิตา เปิดเผยทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชน ท่านปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นฝ่ายวิดิโอคอลหาฝ่ายหญิงและบังคับให้วิดีโอคอลหาขณะอาบน้ำ แต่ฝ่ายหญิงเป็นผู้วิดีโอคอลหาตนเองขณะอาบน้ำและเปลือยกาย พระเผือกยอมรับว่าตนแคปภาพเอาไว้จริง แต่แคปเอาไว้เพื่อเตือนสติฝ่ายหญิงว่า ไม่สมควรทำแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ส่งภาพให้พระรูปอื่นในวัดแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าพระเผือกได้มีการโชว์อวัยวะเพศขณะวิดีโอคอลพระเผือกยืนยันว่าตนไม่ได้ทำดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
พระเผือกเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าที่ผ่านมาตนพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับฝ่ายหญิง ถึงขั้นต้องหนีไปบวช ไม่ใช่หนีไปบวชเพราะถูกกลุ่มบัญชีม้าตามไล่ล่าตามที่ฝ่ายหญิงกล่าวอ้าง และที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดจาข่มขู่ใดๆกับฝ่ายหญิงมาก่อนเลย ซึ่งหากฝ่ายหญิงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ตนก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ทั้งนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีพระมหารูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ในวัด คุยสายแทนและบอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางวัดยังไม่ทราบในประเด็นนี้ หากพบว่าพระเผือกทำผิดจริงก็ว่ากันไปตามความผิด ส่วนเรื่องประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่าวัดดังกล่าวมีเบี้ยเลี้ยงกิจนิมนต์วันละ 200 บาทพระมหาปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้และพยายามบ่ายเบี่ยงที่ตัดจะตอบคำถามกับสื่อมวลชนเพราะอ้างว่าจะไปฉันเพล