การตลาดแบบใหม่! คนขายไอติม ตะโกนขอความช่วยเหลือ ยามวิกาล ชาวบ้านสุดจะทน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือ
วันที่ 2 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีเพจ Facebook เจ๊ม้อย v+ได้ทำการโพสต์คลิปวีดิโอพร้อมระบุข้อความว่า หลังได้มี ลุงคนขายไอติมยี่ห้อดัง ตะโกนขอความช่วยเหลือ เรียกร้องความสนใจกลางค่ำกลางคืน จนชาวบ้านทนไม่ไหว ร้องถึงหน่วยงานเกี่ยวเข้าช่วยเหลือ
โดยข้อความดังกล่าวระบุไว้ว่า “แบบนี้เรียกอะไรดี มาตะโกนดึกดื่นค่ำคืน จนคนในหอรำคาญ เสียงดังถึงชั้น 4 ต้องลงมาดูแล้วให้เงินไป 100 การตลาดมิจชี่ครอดเนียนเว่อร์ มีหลายคนที่โดนกับลุงคนนี้ จะใช้วิธีตะโกนเรียกร้องความสงสาร บางครั้งห็มีคนเหมาแกหมด แล้วแกก็มาตะโกนแบบเดิม หน่วยงานคงต้องลงจัดสักทีนะคะ ประชาชื่น”
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้มีการพูดคุยกับ ป้าชรินรัตน์ อายุ 49 ปี หัวหน้าศูนย์ย่อยไอติมยี่ห้อดังกล่าวบางโพ เปิดเผยว่า
ชายคนดังกล่าวในคลิปชื่อ นายอุดมศักดิ์ อายุประมาณ 49 ปี ทำงานอยู่แถวประชาชื่น เป็นคนสติไม่ค่อยดีตั้งแต่สมัยบวช ภายหลังจากสึกจึงมาขอทำงานขายไอติมได้ประมาณสี่ปีก็มักจะมีพฤติกรรมดังกล่าว
ที่ผ่านมาเคยมีผู้ใช้ TikTok ได้ลงคลิปไว้เมื่อสี่ปีก่อนโดยทางเจ้าของเคยจะไล่นายอุดมศักดิ์ออก เพราะจะทำเสียชื่อเสียง แต่ว่าย่าของนายอุดมศักดิ์ได้มาขอร้องไว้ จึงสงสารอนุโลมให้ขายต่อ และได้มีการกล่าวตักเตือนไปแล้วว่าอย่าทำอีก ให้ใช้กระดิ่งเรียกก็พอแล้วหรือใช้วิธีการขายแบบอื่น
- นาซาเตรียมดูงาน! ‘น้องหญิง’ สื่อสาร สัตว์ต่างดาว เจ็บปวดถึงกระดูก
- แม่น้องไนซ์-ทนาย ย่องเงียบ! เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หมิ่น ‘หนุ่มกรรชัย’
- สลดใจ! ผู้อพยพ แทงคอ ตำรวจเยอรมัน กลางวงประท้วงอิสลาม เสียชีวิต
ตนมองว่านายอุดมศักดิ์ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ เพียงแต่ว่าสติไม่ดีและหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียวทั้งปู่ย่าและหลาน มีค่าใช้จ่ายเยอะจนบางทีก็หาไม่ทันเลยไปร้องให้คนช่วยเหลือ เป็นคนซื่อ ๆ บ้าการเมือง ไปไหนก็จะพูดแต่เรื่องการเมือง ประจำอยู่ เขตเตาปูน บางซื่อ ไปจนถึงนนทบุรี บางทีแกก็ไปมั่วออกนอกพื้นที่เดินไปถึงจรัญ เป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง
ด้านนาย อุดมศักดิ์ อายุ 48 ปีเปิดเผยว่า ตนเครียดมากเคยคิดอยากฆ่าตัวตายเนื่องจากค้าขายไม่ค่อยดี ถ้าขายไม่ได้ทุนก็จะไม่ได้เงิน บางวันก็ขาดทุนจึงอยากให้คนช่วยเหลือ ซึ่งในวันเกิดเหตุตนขายไม่ได้เลยเนื่องจากฝนตก จึงได้ร้องตะโกนให้คนช่วยซื้อไอติม ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นมิจฉาชีพแต่มีปัญหาเรื่องค้าขาย เพราะต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 6000 บาท ซึ่งตนอยู่กับปู่กับย่าและหลาน อยากให้สังคมเข้าใจและช่วยเหลือช่วยอุดหนุนตนด้วย หากมีงานก็ติดต่อมาได้พร้อมไปให้บริการถึงที่ โดยหลังจากนี้จะไม่ทำเหตุการณ์แบบดังกล่าวอีก
