สุชาติ ลุยเคาะประตูบ้าน ช่วยผู้สมัคร รวมไทยสร้างชาติ ขอคะแนนเสียงชาวชลบุรี ก่อนนำทัพ ขึ้นปราศรัยบ้านบึง แฟนคลับแห่เชียร์พรึบ
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านริมทะเล ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 1 เบอร์ 9 พรรครวมไทยสร้างชาติ หาเสียงแนะนำตัว โดยนายสุชาติ และน.ส.ณภัสนันท์ ได้พบปะทักทายสอบถามสารทุกข์สุขดิบกับพี่น้องชาวบ้าน ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านริมทะเล เพื่อสอบถามวิถีชีวิตความเป็นอยู่และปัญหาความต้องการของชาวบ้านในหมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงพื้นที่ของนายสุชาติ และน.ส.ณภัสนันท์ ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง โดยมีชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทุกครัวเรือนต่างเปิดประตูรั้ว ประตูบ้านออกมาต้อนรับ ทักทาย พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟี่ไว้เป็นที่ระลึก และให้กำลังใจอย่างเหนียวแน่นเช่นเดียวกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เวลา 18.00 น. นายสุชาติ ยังได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัย ณ ลานวัฒนธรรม หน้าที่ว่าการอำเภอบ้านบึง เทศบาลเมืองบ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อช่วยนายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 เบอร์ 6 หาเสียงขอคะแนนจากชาวบ้านในพื้นที่
โดยเนื้อหาหลักที่ใช้ปราศรัยจะชูผลงานในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่นายสุชาติได้ทำเพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานและพี่น้องชาวชลบุรีไปมากมาย รวมถึงนำเสนอนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ได้คิดไว้แล้ว และจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน หากพรรคได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เช่น เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ขอ คืนเงินชราภาพผู้ประกันตน 30 เปอร์เซ็นต์
เพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท เพิ่มเงินเลี้ยงดูแลบุตร สร้างโรงพยาบาลประกันสังคม ออกกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ โดยนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของพรรคที่ว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”
ทั้งนี้ บรรยากาศหน้าเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างครึกครื้น ประชาชนต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจเป็นระยะ พร้อมชูป้ายไฟให้นายสุชาติ และทีม ส.ส.ชลบุรี ของพรรค มีแฟนคลับของนายสุชาติและพรรครวมไทยสร้างชาติ กว่า 3,000 คน ต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาฟังการปราศรัยอย่างแน่นเหนียวเต็มพื้นที่ลานหน้าที่ว่าอำเภอบ้านบึง