สื่อเกาหลีรายงาน พบชิ้นส่วนร่างกาย 660 ชิ้น จากอุบัติเหตุ Jeju Air ยังยืนยันตัวตนไม่ได้ 5 ราย ร่างคนไทย 1 ใน 2 ถูกส่งคืนให้ครอบครัวแล้ว

จากกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบิน Jeju Air ของเกาหลีใต้ประสบอุบัติเหตุสูญเสียการควบคุม พุ่งชนกำแพงที่สนามบินมูอันในช่วงเช้าวันที่ 29 ก่อนระเบิดขึ้น มีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 181 คน รอดชีวิตเพียง 2 คน ส่วนอีก 179 คนเสียชีวิตทั้งหมด

ขณะนี้การระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 5 คน ที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียด เนื่องจากปัญหาการไม่ตรงกันของดีเอ็นเอ โดยส่วนใหญ่สภาพศพเสียหายรุนแรงจนเหลือเพียงชิ้นส่วนเล็กน้อยที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 9 วัน ก่อนจะสามารถส่งคืนศพทั้งหมดให้กับครอบครัวได้

ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป Ministry of Land, Infrastructure and Transport ซึ่งเป็นกระทรวงที่รับผิดชอบกรณีนี้ ได้จัดแถลงข่าวที่อาคารสนามบินมูอันในวันที่ 31 ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 174 รายจากทั้งหมด 179 ราย ที่ได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว

ในจำนวนผู้เสียชีวิต 32 รายที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้จากการเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ในระยะที่หนึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ 17 ราย และในระยะที่สองอีก 10 ราย ส่วนที่เหลืออีก 5 ราย ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเนื่องจากปัญหาดีเอ็นเอไม่ตรงกันและสาเหตุอื่นๆ”

กระทรวงฯ ชี้แจงว่าขณะนี้มีเพียง 4 ศพที่ได้ส่งคืนให้ครอบครัวแล้ว และได้จัดพิธีศพในบ้านเกิดของแต่ละคน สำหรับผู้โดยสารชาวไทย 2 รายที่เสียชีวิต ขณะนี้ร่างของหนึ่งในนั้นได้ส่งคืนให้ครอบครัวเรียบร้อยแล้ว โดยทางการได้ช่วยจัดสวดอภิธรรมที่บ้านในเมืองควางจู

กระทรวงฯ ยังระบุว่าร่างผู้เสียชีวิตอีก 175 รายยังไม่ได้ส่งคืน โดยขณะนี้เก็บรักษาไว้ในห้องเก็บศพชั่วคราวแบบแช่เย็นที่ตั้งอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินของสนามบินมูอัน โดยวางแผนจะทยอยส่งมอบให้ครอบครัวหลังจากหน่วยงานสอบสวนเสร็จสิ้นการชันสูตรและกระบวนการตรวจสอบอื่นๆ

ทางการยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากมีชิ้นส่วนศพเพียงส่วนน้อยที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 9 วัน เพื่อดำเนินการส่งมอบชิ้นส่วนทั้งหมดให้ครบถ้วน

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เกาหลีระบุว่า ขณะเกิดเหตุ การระเบิดส่งผลกระทบอย่างรุนแรงจนทำให้ร่างของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดความเสียหายรุนแรงและกระจัดกระจาย โดยจนถึงปัจจุบันพบชิ้นส่วนศพแล้วประมาณ 660 ชิ้น ต้องใช้เวลานานในการประกอบและเย็บเข้าด้วยกันเพื่อยืนยันตัวตนอย่างละเอียด ทำให้ผลเบื้องต้นจะออกมาอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 8 มกราคม 2025 เจ้าหน้าที่ตำรวจยังแสดงความเสียใจที่ขณะนี้ไม่สามารถรับประกันได้ว่าร่างของผู้เสียชีวิตทุกคนจะสามารถส่งคืนให้ครอบครัวในสภาพที่สมบูรณ์ได้

นอกจากนี้ ตำรวจยังระบุว่า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ต้องการรับศพโดยเร็ว ตำรวจกำลังพิจารณาว่าหากครอบครัวผู้เสียชีวิตยินยอม “แม้ว่าร่างจะไม่ครบถ้วนก็จะส่งมอบล่วงหน้าได้” โดยแหล่งข่าวจากวงการตำรวจเผยว่า หากแพทย์นิติเวชยืนยันว่าร่างสามารถส่งมอบได้ก่อน ตำรวจจะหารือกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติหลังได้รับความยินยอมจากครอบครัว