ประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักว่าเป็นประเทศที่มีความเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย ใกล้จะเปิดทางให้การสมรสมระหว่างคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมายแล้ว หลังสภาผู้แทนราษฏรลงมติผ่านร่างกฎหมาย 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ในวาระที่ 1 ในวันพฤหัสบดี ตามรายงานของรอยเตอร์

ในการประชุมนัดล่าสุด สมาชิกสภาล่างของไทยมีมติ 360 ต่อ 10 ผ่านร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับซึ่งจะถูกเสนอขึ้นพิจารณาต่ออีก 2 วาระ และหากได้รับเสียงสนับสนุนผ่านต่อไปจนได้รับการลงพระปรมาภิไธยโดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งหมดก็จะถูกประกาศใช้เป็นกฎหมายในที่สุด

ทั้งนี้ ความคืบหน้าในการผ่านร่าง พ.ร.บ.ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงการเห็นพ้องต้องกันในบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

ส่วน ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกลและเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลักดันการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม บอกกับ วีโอเอ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในสภาในวันพฤหัสบดีถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศไทย ที่ทุกฝ่ายเข้ามาทำงานร่วมกัน พร้อมแสดงความหวังว่า การเปลี่ยนที่กำลังดำเนินอยู่นี้จะช่วยให้สังคมไทยเป็นที่ ๆ บุคคลข้ามเพศไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งรังแก แต่สามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในสังคมได้เท่าเทียมกับคนอื่น ๆ แล้ว

ภายหลังการโหวตของสภาล่างเสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน โพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ม เอ็กซ์ ที่มีเนื้อหาว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง LGBTQIA+ ทุกท่านที่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการโหวตวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนท่วมท้น … วันนี้ ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นแล้วครับ”

และก่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้งหมดนี้ วาดดาว ชุมาพร นักเคลื่อนไหวด้านความหลากหลายทางเพศ กล่าวต่อหน้าที่ประชุมสภาว่า “การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมและการผ่านกฎหมายต่าง ๆ เราถือว่า เป็นคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากรัฐ ที่การพรากสิทธิ์ การก่อต้านครอบครัวและพรากสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากประชาชน … คำขอโทษเหล่านี้จะเป็นคำมั่นสัญญาที่หนักแน่นที่สุดที่รัฐจะประกาศให้กับเยาวชนเพศหลากหลาย ให้กับครอบครัวเพศหลากหลาย และให้กับทุกคนที่ต้องการอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ ด้วยความสุข ความเสมอภาคและความเป็นธรรม”

ขณะที่ หลายฝ่ายจับตาดูการเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้งหมดนี้ในวาระต่อๆ ไป กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ความเห็นว่า การช่วยให้กฎหมายดังกล่าวเดินหน้าไปสู่การประกาศใช้ได้ไม่ควรเป็นเหตุผลที่ประชาชนจะลืมไปว่า พรรคผู้นำรัฐบาลนี้ปฏิเสธที่จะสนับสนุนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะทำให้สังคมไทยมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น หรือการที่พรรคแห่งนี้ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องประเด็นการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย บอกกับ วีโอเอ ว่า พรรคเพื่อไทยนั้นใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อหลบเสียงร้องเรียนและคำถามจากประชาชนเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่รัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนอย่างน้อย 9 คน โดยส่วนใหญ่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ถูกคุมขังจากการถูกกล่าวหาว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในระหว่างการร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลชุดก่อนที่มีกองทัพหนุนหลัง เมื่อปี 2020