จากกรณีที่วานนี้ (12 มิ.ย.) ได้มีคู่สามีภรรยา เดินทางมาร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษาว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกพระสงฆ์เจ้าสำนักชื่อดัง หลอกเข้าลัทธิถวายตัว โดยพระรูปนี้ได้ออกอุบายกับตนว่า ตนมีดวงผูกชะตากับพระรูปนี้ เคยเป็นพ่อลูกกันมาก่อน รวมทั้งอ้างว่า ครอบครัวของตนกำลังถูกทำของใส่ และจะทำให้ตนสิ้นอายุขัยได้ ทำให้ทางพระจึงทำพิธีถอนของให้ ซึ่งตอนนั้นเป็นการพิธีตามปกติ ยังไม่ได้ทำพิธีเชิงเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด เลยทำให้ตนเกิดความนับถือศรัทธาพระรูปนี้อย่างมาก เพราะรู้สึกว่าทำให้ชีวิตตนดีขึ้นมาจริงๆ
- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผัวเมียช้ำใจ! ถูก ลัทธิถวายตัว หลอกเข้ากลุ่มสวิงกิ้ง เพื่อต่ออายุไข!?
แต่เมื่อถึงช่วงปลายปี 2564 พระสงฆ์รูปนี้เริ่มมีอาการป่วย อ้างกับตนและแฟนว่า พระใกล้มรณภาพแล้ว สังขารจะไม่ไหวเพราะใช้พลังงานในการสั่งสอนธรรมเทศนา และช่วยให้คนหลุดพ้นทุกข์เป็นจำนวนมาก เลยทำให้พลังงานของท่านเริ่มจะหมดลง หากหมดพลังท่านก็จะตายไป พระรูปนี้จึงได้มาสอบถามตนกับแฟนถึงความสมัครใจ ที่จะเข้าสู่การปฏิบัติพิธีกรรมในขั้นสูง โดยอ้างว่า ต้องทำพิธีด้วยความสมัครใจเท่านั้น พร้อมพูดจาหว่านล้อมว่า พิธีกรรมดังกล่าวคือการถวายตัวแก่พระ เพื่อเป็นการถวายพลังงานให้ท่านมีชีวิตรอดต่อไปได้ ซึ่งตนกับแฟนเห็นว่า พระรูปนี้เคยช่วยเหลือตนมาหลายครั้งแล้ว จึงควรที่จะตอบแทนแก่ท่านบ้าง เลยตัดสินใจที่จะเข้าร่วมพิธี
หลังจากนั้นก็จะเป็นการพิธีถวายตัว โดยการบังคับให้ตนและแฟนหนุ่ม มีเพศสัมพันธ์กับพระรูปนี้ โดยในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ พระจะบังคับให้คู่ร่วมเพศปิดตา และให้ลูกศิษย์ถ่ายคลิปวิดีโอ บันทึกภาพขณะมีเพศสัมพันธ์หรือร่างกายเปลือยเปล่า อ้างว่าคลิปและภาพเหล่านี้ จะนำไปถวายแด่เทพเจ้าในลัทธิวัชรยาน เพื่อเป็นการบูชา เมื่อทำพิธีกรรมนี้เสร็จสิ้นลง ปรากฏว่า พระรูปนี้อ้างว่า มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นและหายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เลยทำให้ตนตอนนั้นเริ่มเชื่อและศรัทธา แต่พระก็ยังให้ตนและแฟน เข้าร่วมทำพิธีลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้ทำพิธีมีเพศสัมพันธ์หมู่กับบรรดาลูกศิษย์ ที่เป็นฆราวาสของสำนักสงฆ์ ครั้งหนึ่งสูงถึง 4-5 ราย โดยอ้างว่า การมีเพศสัมพันธ์หมู่ จะเป็นการครบองค์ประกอบสำคัญของการบรรลุธรรมขั้นสูง
ด้านนายเอกภพ สายไหมต้องรอด เผยว่า กรณีนี้ เป็นการหลอกหากินหลอก มีเพศสัมพันธ์ผ่านความเชื่อทางศาสนา ซึ่งสอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่พุทธศาสนามีปัญหากับบุคคลลัทธิประหลาดที่บิดเบือนพระธรรมคำสอนเพื่อประโยชน์ของตนเองเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากนี้จะประสานกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเพชรบูรณ์ และตำรวจเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ทางการจะยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ล่าสุดเฟซบุ๊ก สวนธุดงค์สถาน วิหารพระมารดร ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ทางสวนธุดงค์สถาน วิหารพระมารดร ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า ในขณะนี้ ทางสวนธุดงค์ ขอยุติการ เป็นที่พักสงฆ์นับจากนี้เป็นต้นไป และทางท่านพระอาจารย์ได้ ลาสิกขา ต่อหน้าพระเถระ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คณะสงฆ์ และไม่ให้เกิดความวุ่นวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จึงแจ้งมายัง คณะสานุศิษย์และผู้ศรัทธาทั้งหลายให้ทราบโดยทั่วกัน #เค้าว่าเราไม่ดีก็สึกเนาะ ต่อจากนี้ ที่นี้คือ สำนักบารมีพุทโธรักษา และ จะดำเนินงานสานฝัน ตามรอยคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่อไป ขอขอบคุณ คณะศรัทธาสานุศิษย์ทุกท่านที่ได้ร่วมกันสานฝันมาตลอดครับ”