วันที่ 7 มี.ค.เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนประณามการปราบปรามจีนที่นำโดยสหรัฐอเมริกาในการเรียกร้องให้ภาคเอกชนส่งเสริมนวัตกรรมและพึ่งพาตนเองมากขึ้น ระหว่างการประชุมการปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีนหรือซีพีพีซีซีประจำปี ซึ่งจัดควบคู่กับการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือเอ็นพีซีที่อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง
ในการวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐอเมริกาที่หาได้ยากของนายสี ผู้นำจีนกล่าวกับคณะผู้นำทางอุตสาหกรรมว่า ชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกาดำเนินการสกัดกั้น โอบล้อมและปราบปรามจีน ซึ่งนำไปสู่ความท้าทายที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อการพัฒนาประเทศของจีน
นายสีกล่าวอีกว่า จีนต้องมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้ในขณะที่ประเทศเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนและยาวนานทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศและบริษัทเอกชนควรเริ่มทำให้เป้าหมายการพัฒนาที่มีคุณภาพระดับสูงสำเร็จ
“ผมเน้นย้ำเสมอว่า มี 2 สาขาที่สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับจีน หนึ่งคือ การปกป้องถ้วยข้าวของเราและสองคือการทำให้ภาคการผลิตแข็งแกร่ง ในฐานะชาติที่มีขนาดใหญ่ มีประชากร 1.4 พันล้านคน จีนต้องพึ่งตนเอง ไม่สามารถพึ่งตลาดต่างประเทศในการช่วยให้จีนปลอดภัย” นายสีกล่าว
เป้าหมายทางเทคโนโลยีของจีนได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดจำนวนมากที่เกิดจากสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก และจีนย้ำถึงการเปลี่ยนจากการนำเข้าสำหรับภาคส่วนที่ถือว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ โดยเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐเข้มงวดการแซงก์ชั่นต่อผู้ผลิตชิพชาวจีน โดยอ้างความกังวลด้านความมั่งคงและความเสี่ยงที่เทคโนโลยีจะถูกกองทัพจีนนำไปใช้
ต่อมานายฉิน กัง รมว.การต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่ง ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐจำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและมิตรภาพมากกว่าการเมืองภายในของสหรัฐ
วันเดียวกัน ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายฉินแสดงท่าทีไม่สนใจกรณีที่ชาติตะวันตกเตือนว่าว่าจีนอาจส่งอาวุธให้รัสเซียเพื่อใช้ทำสงครามในรัสเซีย โดยระบุว่า จีนจะไม่ยอมรับการตำหนิกันไปมา การแซงก์ชั่นและการปราบปรามและภัยคุกคามที่พุ่งเป้ามาที่จีน นอกจากนี้นายฉินกล่าวเทียบความเป็นไปได้ในอนาคตที่จีนจะส่งอาวุธให้รัสเซียในสงครามยูเครนกับกรณีที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่า เหตุใดสหรัฐขอให้จีนไม่ส่งอาวุธให้รัสเซีย ขณะที่สหรัฐกำลังขายอาวุธให้ไต้หวัน
…………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
•จีนเพิ่มงบกลาโหม ภัยคุกคามจากต่างชาติขยาย ตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตต่ำรอบหลายสิบปี